นักวิทยาศาสตร์จำลองใบหน้ามัมมี่เด็กสาวชาวอินคาอายุกว่า 500 ปีได้สำเร็จ โดยใช้เทคโนโลยีสามมิติ โดยคาดว่า เด็กสาวมีอายุระหว่าง 14-15 ปี ซึ่งศพที่ถูกแช่แข็งถูกพบเมื่อปี 2538 ในประเทศเปรู และเธออาจถูกบูชายัญถวายแด่เทพเจ้า
วันนี้ (25 ต.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งซานตามาเรีย ในประเทศเปรู และมหาวิทยาลัยวอร์ซอ ในประเทศโปแลนด์ เปิดเผยว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีสามมิติ (3D) จำลองใบหน้าของมัมมี่เด็กสาวชาวอินคาเมื่อกว่า 500 ปีก่อนได้สำเร็จ หลังจากใช้เวลา 20 ปี ในการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะ และลำตัวของมัมมี่ที่รู้จักกันในชื่อ "สุภาพสตรีแห่งอัมปาโต" (Lady of Ampato) หรือ "ฮวนนิตา" (Juanita)
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดว่า เด็กสาวคนดังกล่าวมีอายุระหว่าง 14-15 ปี ซึ่งศพที่ถูกแช่แข็งถูกค้นพบเมื่อปี 2538 ที่ระดับความสูง 6,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในจังหวัดเคย์โลมา ภูมิภาคอาเรกีปา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1,000 กิโลเมตร ทางตอนใต้ของกรุงลิมา ประเทศเปรู
จากการวิจัยพบว่า เด็กหญิงคนนี้อาจถูกบูชายัญในช่วงจักรวรรดิอินคา เพื่อเป็นการถวายแด่เทพเจ้า เพื่อขอให้หยุดยั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ความแห้งแล้ง น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด หรือโรคระบาด นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า "ฮวนนิตา" เสียชีวิตจากการถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งมีรอยแยกในกะโหลกศีรษะความยาว 5 เซนติเมตร ซึ่งอาจมาจากการถูกตีด้วยกระบองหรืออาวุธของชาวอินคา