11.11 นอกจากเป็นวันคนโสดแล้ว ยังมีอะไรมากกว่านั้น

รู้หรือไม่ 11.11 นอกจากเป็นวันคนโสดแล้ว ยังมีอะไรมากกว่านั้น และที่มาเป็นยังไง ใครบัญญัติ แถมยังเกี่ยวข้องกับ Online Shopping ที่ส่งผลต่อการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอีก วันนี้ CH7HD News จะมาเล่าให้ฟัง
.
11.11 คือวันอะไร ใครเป็นคนคิด?
วันที่ 11 เดือน 11 หรือวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันคนโสด เกิดขึ้นในจีนเมื่อปี 2534 หรือราว 30 ปีที่แล้ว ส่วนที่มาของคำว่า วันคนโสด มาจากเลข 1 เป็นเลขที่ดูเหมือนคนยืนคนเดียว และเริ่มจากแนวคิดของกลุ่มนักศึกษาจีนที่ต่อต้านวันวาเลนไทน์ โดยเหล่าบรรดานักศึกษาต่างซื้อของขวัญให้ตัวเอง กินอาหารดีๆ หรือท่องราตรีคนเดียว มอบความสุขให้ตนเองโดยปราศจากคู่ แรกเริ่มนั้นจัดขึ้นเพียงภายในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นความเชื่อของชาวเอเชีย ต่อมาคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางและเริ่มเป็นที่นิยม

ธุรกิจจีนเริ่มมองเห็นโอกาส
บรรดาธุรกิจต่างๆ ในจีนมองเห็นโอกาสที่จะทำการตลาดได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงวันคนโสด ที่คนส่วนใหญ่จะซื้อของขวัญให้ตนเอง จึงได้คิดกลยุทธ์การตลาดออกมาในช่วงวัน 11.11 โดยมีสินค้าราคาพิเศษ อย่างเช่น เมื่อปี 2552 อะลีบาบา แพลตฟอร์มช็อปปิงออนไลน์ยักษ์ใหญ่ สัญชาติจีน ได้ใช้โอกาสวันนี้เริ่มในการลดราคาสินค้าผ่านการสั่งซื้อออนไลน์ และเมื่อวันคนโสดปีที่ผ่านมา อะลีบาบา และ JD.com ทำยอดขายไปได้ 1,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมสินค้าที่ขายได้กว่า 33,000 รายการ ในจำนวนนี้มีทั้ง อะพาร์ทเม้นต์ กระเป๋าหรู รถยนต์ จนไปถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากมองเห็นช่องทางของการซื้อขายผ่านออนไลน์แล้ว หลายแบรนด์ดังในจีนต่างใช้วันคนโสดนี้จัดงานเปิดตัวสินค้า หรือเปิดพรีออเดอร์สินค้าด้วย โดยบางแบรนด์สามารถทำรายได้มากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง

วันคนโสดกลายเป็นมหกรรมลดราคาสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกในรอบ 24 ชั่วโมง ที่สามารถทำยอดขายได้สูงกว่า Black Friday หรือ Cyber Monday ของฝั่งสหรัฐฯ และกลยุทธ์นี้เริ่มขยายไปยังสหรัฐฯ ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  รัสเซีย และบราซิล

ช็อปปิงต้องมีขอบเขต มากไปอาจไม่ปกติ!
หยาง เจียนหลัน นักจิตวิทยาชาวจีน ออกมาเตือนว่า การเสพติดการช็อปปิง อาจเป็นนึ่งของความผิดปกติที่มาจากอารมณ์ทางด้านลบ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อของหรือขาดการควบคุมตัวเองในการซื้อ

พฤติกรรมการช็อปปิงจำนวนมากอาจเป็นการระบายความเครียด ผ่อนคลายความกดดันในชีวิตประจำวัน และคาดว่าวัฒนธรรมการซื้อของ และการจัดกิจกรรมทางธุรกิจในวันคนโสดยังคงจะมีต่อไป เนื่องจากคนยุคใหม่ต่างก็ชอบใช้จ่ายในวันคนโสดมากขึ้น