องค์การสหประชาชาติ หรือ UN จัดทำรายงานสรุปต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า ทางการเกาหลีเหนือ ใช้วิธีการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อขโมยเงินแลกเปลี่ยนคริปโต และสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,600 ล้านบาท ในช่วงระหว่างปี 63-64 เพื่อนำเงินจำนวนนี้ ไปสมทบทุนสร้างขีปนาวุธ
ขณะที่ตัวเลขที่แท้จริง คาดว่า เกาหลีเหนือ น่าจะขโมยเงินคริปโต ได้สูงถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 13,000 ล้านบาท
โดยกลุ่มแฮคเกอร์ของทางการเกาหลีเหนือ ล้วงข้อมูลสถาบันเงินตรา และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราคริปโตอย่างน้อย 3 แห่งในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และ เอเชีย
รายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 62 ระบุว่า เกาหลีเหนือ สามารถระดมทุนสร้างขีปนาวุธได้ถึงกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่า มาจากเงินคริปโต
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือ ถูกคว่ำบาตรจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาขาติ จากโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และจรวดขีปนาวุธ แต่ “เกาหลีเหนือ” ก็ยิงทดสอบขีปนาวุธถึง 9 ครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา
