ผู้นำกลุ่ม G7 ให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนยูเครน ทั้งด้านการเงิน มนุษยธรรม การทหาร การทูต และทางกฎหมาย ต่อไปจนถึงที่สุด และประณามการโจมตีระลอกล่าสุดของรัสเซียว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม และหากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียจะต้องได้รับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง หลังจากยูเครนถูกรัสเซียกระหน่ำโจมตีระลอกใหม่
วันนี้ (12 ต.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำกลุ่ม "จี7" (G7) หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน หลังการหารือแบบประชุมทางไกลกับประธานาธิบดี "โวโลดิมีร์ เซเลนสกี" ของยูเครน ว่า กลุ่ม G7 ให้คำมั่นจะสนับสนุนยูเครน ทั้งด้านการเงิน มนุษยธรรม การทหาร การทูต และทางกฎหมาย ต่อไปจนถึงที่สุด เพื่อสนับสนุนให้ยูเครนสามารถรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน หลังจากยูเครนถูกรัสเซียกระหน่ำโจมตีระลอกใหม่
นอกจากนี้ ผู้นำกลุ่ม G7 ยังออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีระลอกล่าสุดของรัสเซีย ที่มีการโจมตีใส่ประชากรที่เป็นพลเรือน โดยถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม และหากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียจะต้องได้รับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง ซึ่งประธานาธิบดี "วลาดิเมียร์ ปูติน" จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี "โจ ไบเดน" ของสหรัฐฯ ระบุว่า เขาไม่เชื่อว่ารัสเซียจะกล้าใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการโจมตีจริง
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้หารือกับผู้แทนทางการทูตจากมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นการประชุมทางไกล โดยสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องและกดดันให้นานาชาติรับข้อมติของสหประชาชาติ ในการประณามการที่รัสเซียผนวกดินแดนของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย