เช้านี้ที่หมอชิต - คดีนี้ตำรวจยังไม่แน่ชัดว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุประสงค์ต่อสิ่งใดกันแน่ โดยบุกยิง ปลิดชีพ แม่ค้าขายอาหารต่อหน้าหลานอายุ 5 ขวบ แต่ตำรวจตรวจสอบพบทรัพย์สินอย่างสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท สูญหายไปด้วย
เหตุการณ์เกิดช่วงหกโมงเย็นเมื่อวานนี้ในพื้นที่รับผิดชอบ ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีชาวบ้านถูกปืนยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 9 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเมืองนครปฐม เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ บริเวณหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ส่วนภายในบ้านพบ นางน้ำอ้อย อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น เมื่อพลิกศพดูพบมีรอยกระสุนปืนยิงเข้าหน้าอก เหนือราวนม ข้างซ้าย 1 นัด และพบมีดพร้าวางอยู่ข้างลำตัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นตรวจสอบทรัพย์สินพบมีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมจี้ทองคำ รูปกระต่าย ที่ผู้เสียชีวิตสวมติดลำคอไว้ตลอด ไม่เคยถอด สูญหายไป
สอบถาม นายธันพันธุ์ ผิวคำ ผู้ที่พบศพเป็นคนแรก เล่าว่า ทุกวันทั้งเช้าและเย็นตัวเขาเองจะปั่นจักรยานยนต์มาหาผู้เสียชีวิตที่บ้าน เพื่อมากินข้าวและช่วยเก็บของ ก่อนเกิดเหตุตนปั่นจักรยานมาหาตามปกติ เมื่อมาถึงเห็น นางน้ำอ้อย นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ทีแรกคิดว่าเธอเป็นลมหมดสติไป แต่ไม่กล้าเข้าไปจับตัว จึงไปเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันให้มาช่วยปั๊มหัวใจ แต่เธอก็ไม่ฟื้น จึงแจ้งตำรวจ
หญิงอายุ 32 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า อยู่บ้านหลังนี้กัน 3 คน มีเธอ แม่ และหลานอายุ 5 ขวบ ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เธอออกไปขายของ จึงเหลือแค่แม่กับหลานที่อยู่บ้าน จู่ ๆ มีคนโทรศัพท์มาบอกให้รีบกลับมาบ้านด่วน เมื่อมาถึงเห็นแม่นอนเลือดท่วมตัวเสียชีวิตแล้ว ส่วนหลานไม่ได้รับอันตรายอะไร แต่เท่าที่สอบถามทราบเพียงว่า มีคนมาต่อสู้กับอาม่าแล้ว เห็นอาม่าถูกยิงกับตา ปกติแม่เป็นคนอารมณ์ดี พูดคุยสนุกสนาน และเป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ไม่รู้เลยว่าแม่มีปัญหาขัดแย้งกับใครหรือไม่
ตำรวจตั้งปมการสังหารไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตหน้าตาสวย อาจจะมีผู้ชายมาชอบแล้วเกิดหึงหวงฝ่ายหญิง ทั้งนี้ยังมีคนให้เบาะแสอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง-ดำ มาจอดแล้วเดินเข้าบ้านผู้เสียชีวิต จากนั้นเกิดโต้เถียงกันเสียงดัง ซึ่งนี่เป็นอีกเบาะแสสำคัญที่ตำรวจเก็บไว้เป็นแนวทางสืบสวนว่าที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตมีปัญหากับใครหรือไม่ ส่วนประเด็น ฆ่าชิงทรัพย์ ก็ไม่ได้ตัดทิ้งเพราะสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่สูญหายไป อาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายฉกไปเพื่อต้องการเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องฆ่าชิงทรัพย์
