ตร.และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนางรอง ตรวจสอบอาคารพาณิชย์ลอบใช้ไฟหลวงนาน 9 เดือน คาดเป็นเครือข่ายบิตคอยน์
วันนี้ (24 ธ.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนางรอง ได้เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในสถานีขนส่งผู้โดยสารนางรอง หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ผู้ที่เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวน่าจะว่าทำธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่าง เพราะได้ยินเหมือนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานตลอด แต่ไม่เคยเห็นมีใครเข้า-ออก
จากการตรวจสอบพบป้ายหน้าร้าน ระบุว่า เป็นร้าน นำเข้า ส่งออก ไมโครชิป และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 2 คูหา แต่ไม่มีใครอยู่ภายในอาคาร
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงได้แจ้งขออนุญาตเจ้าของอาคาร เพื่อทำการงัดแผงไม้บริเวณด้านหน้าเพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าหรือไม่ ก็พบว่ามีการลักลอบเจาะและติดตั้งสายไฟเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อลักลอบใช้ไฟหลวงจริง
จากการตรวจสอบพบการมีการใช้ไฟ ที่ 36.42 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นการใช้ไฟที่ไม่ผ่านมิตเตอร์ ขนาดมิเตอร์ 1 เฟช 2 สาย หากประเมินเป็นมูลค่าความเสียหาย คาดว่ามีการลักลอบใช้ไฟมาแล้ว 9 เดือน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,180,008 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในอาคารพาณิชย์ดังกล่าวออก
สอบถามตัวแทนบริษัท บอกว่า ทางบริษัทไม่ทราบว่าผู้ที่มาขอเช่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เพราะเป็นเพียงผู้ให้เช่าเท่านั้น แต่ทางผู้เช่าแจ้งว่าใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เช่าก็ชำระค่าเช่าปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร ทางบริษัทไม่ทราบว่าผู้เช่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าหลวง แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ที่มาเช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวน่าจะเป็นแก๊งเครือข่ายที่ทำธุรกิจบิตคอยน์ หรือสกุลเงินต่างประเทศ อย่างไรก็ตามจะมีการขออนุมัติหมายศาลเพื่อเข้าทำการตรวจค้นภายในอาคารพาณิชย์ทั้งสองคูหาอย่างละเอียดอีกครั้ง