จีนพร้อมเปิดประเทศ ยกเลิกกักตัวผู้เดินทางขาเข้า เริ่ม 8 มกราคม 2566

จีนพร้อมเปิดประเทศ ยกเลิกกักตัวผู้เดินทางขาเข้า เริ่ม 8 มกราคม 2566

View icon 535
วันที่ 27 ธ.ค. 2565 | 10.01 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ประเทศจีนหยุดบังคับให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องเข้ารับการกักตัว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 แต่นักเดินทางที่เดินทางเข้าประเทศจะยังคงต้องทำการตรวจเชื้อแบบ PCR ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

วันนี้ (27 ธ.ค. 65) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนจะหยุดบังคับให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องเข้ารับการกักตัว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 จากการเปิดเผยของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการมุ่งหน้าสู่การผ่อนปรนมาตรการควบคุมชายแดน ซึ่งถูกปิดตายเป็นส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2563

นอกจากนี้ การจัดการโรคโควิด-19 ของจีน จะถูกลดระดับลงมาเป็นระดับ B ที่เข้มงวดน้อยลงจากระดับสูงสุดคือระดับ A เนื่องจากโรคนี้มีความรุนแรงน้อยลงและจะค่อยๆ พัฒนาไปสู่โรคติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วไป

ระยะเวลา 3 ปี ของการบังคับใช้มาตรการ นับตั้งแต่การปิดพรมแดนไปจนถึงการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน ซึ่งทำให้ชาวจีนไม่พอใจรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นสู่อำนาจในปี 2555

แต่ในเดือนนี้จีนตัดสินเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน โดยลดมาตรการควบคุมโควิดภายในประเทศเกือบทั้งหมด ซึ่งทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดทั่วประเทศ แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า

เบื้องต้นข้อกำหนดอันเข้มงวดสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศยังคงมีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงมาตรการบังคับกักโรค 5 วัน ในสถานที่ที่รัฐบาลดูแล และอีก 3 วัน กักตัวที่บ้านของตนเอง แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยต่อผู้โดยสารบนเที่ยวบินระหว่างประเทศจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป แต่นักเดินทางที่เดินทางเข้าสู่จีนจะยังคงต้องทำการตรวจเชื้อแบบ PCR ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

หน่วยงานดังกล่าวว่า จะปรับปรุงการเตรียมการสำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาจีน เช่น เพื่อมาทำงานและธุรกิจ และจะอำนวยความสะดวกด้านวีซาให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศด้วย แต่การเข้าออกของผู้โดยสารที่ท่าเรือทางทะเลและทางบกจะค่อยๆ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ขณะที่การเดินทางออกนอกประเทศของชาวจีนจะได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นระเบียบ

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จีนจัดโรคโควิด-19 เป็นโรคติดเชื้อประเภท B แต่จัดการภายใต้ระเบียบการประเภท A ซึ่งครอบคลุมโรคต่างๆ เช่น กาฬโรคและอหิวาตกโรค ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจในการกักกันผู้ป่วยและผู้สัมผัสใกล้ชิด และปิดพื้นที่

แม้จีนจะปรับลดระดับการจัดการไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว แต่ทางคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) กล่าวว่า จะยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในสถาบันสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา และหากเกิดการระบาดรุนแรงขึ้น สถาบันจะใช้สิ่งที่เรียกว่า "การจัดการแบบปิด" เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

นอกจากนี้แล้ว จีนยังจะยกระดับอัตราการฉีดวัคซีนในหมู่ผู้สูงอายุเพิ่มเติม และผลักดันให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 2

ทั้งนี้ จีนกลายเป็นประเทศใหญ่ประเทศสุดท้าย ที่มุ่งหน้าสู่การปฏิบัติกับโควิด-19 ในฐานะโรคประจำถิ่น หลังจากมาตรการคุมเข้มของพวกเขาฉุดรั้งเศรษฐกิจมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่อัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการค้าทั่วโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง