จับได้ว่าชายคนรักมีเมียแล้ว เซลหนุ่มผิดหวังในความรักของคู่ชีวิต จอดรถจุดเตาอั้งโล่รมควัน หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาท "บุกชิงรถ" ถึงขั้นขึ้นโรงพักหลายครั้ง
ผิดหวังในรัก เซลหนุ่มรมควันในรถ ค่ำวานนี้ (12 ม.ค.66) อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งเหตุชายนอนหมดสติภายในรถกระบะคันหนึ่ง ซึ่งจอดอยู่ไหล่ทางริมถนนสุวรรณภูมิ สาย 3 ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ตำบลหนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์จอดติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์อยู่ อาสากู้ภัยและเจ้าหน้าที่การท่าฯ พยายามเคาะเรียกและเขย่าตัวถังรถเพื่อให้คนขับรู้สึกตัว แต่ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจทุบกระจกรถเพื่อเข้าไปชีวิต เมื่อเปิดประตูรถได้พบว่าชายคนขับเสียชีวิตคาเบาะรถในท่านั่ง และพบเต่าอั้งโล่จุดไฟวางอยู่ในรถ จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดอย่างละเอียด และปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ
พ.ต.ท. กวี บังคมธรรม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมแพทย์เวรนิติเวช รพ.บางพลี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดกระบี่ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง โดยไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าสะพายของผู้ตาย มีเชือกไนล่อนสีเขียวอยู่ในกระเป๋าพร้อมเครื่องคิดเลขที่ผู้ตายใช้ทำงาน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูป เก็บลายนิ้วมือแฝง และเก็บ DNA ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งไปที่นิติเวชสถาบันจักรกรีนฤบดินทร์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตาย พบเบอร์โทรฉุกเฉินติดต่อญาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการระบุชื่อและความสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่จึงโทรติดต่อไปยังแม่ของผู้เสียชีวิตและคู่ชีวิต โดยชายอายุ 31 ปี ซึ่งผู้เสียชีวิตระบุรายชื่อติดต่อเป็น “คู่ชีวิต” ได้ เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน โดยระบุว่า ผู้ตายเป็นสาวประเภทสองที่คบหากันมาได้ระยะหนึ่ง
ต่อมา ผู้ตายจับได้ว่าตนมีภรรยาและครอบครัวอยู่แล้ว จนเกิดการทะเลาะมีปากเสียง เมื่อผู้ตายสืบทราบว่าตนพักอยู่ย่านร่มเกล้า จึงมาหาแล้วมีปากเสียงทำร้ายร่างกายกัน โดยผู้ตายได้แย่งกุญแจรถกระบะคันที่ใช้ก่อเหตุรมควัน ซึ่งตนส่งค่างวดร่วมกับผู้ตายไป ตนจึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 ต่อจากนั้นผู้ตายสืบทราบว่าตนจะไปส่งรถให้ลูกค้าที่อู่ย่านนครปฐม จึงไปดักรอแล้วทะเลาะวิวาทกันจนต้องเข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นครชัยศรี อีกครั้ง กระทั่งมาทราบข่าวร้ายในครั้งนี้
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ารถคันดังกล่าวขับมาจอดริมถนน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จอดได้ไม่นานก็มีสายตรวจของการท่าฯ แจ้งให้ย้ายรถเพราะเป็นเขตห้ามจอด คนขับรถจึงขับวนหลายรอบเพื่อหาที่จอดรถ กระทั่งมาจอดครั้งสุดท้ายในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนเวร จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ผลัดใหม่พบเห็นรถยนต์จอดนานผิดปกติ จึงมาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากผิดหวังในความรัก
