เรือระเบิดแม่กลอง เสียชีวิตแล้ว 3 คน เร่งหาสาเหตุบึ้ม ยืนยันเรือไม่มีน้ำมันภายนี้ สั่งตั้ง คก.สอบสวน 10 วันต้องรู้ผล
เรือระเบิด เสียชีวิตแล้ว 3 คน วันนี้(17 ม.ค.2566) เมื่อเวลา 16.30 น. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงความคืบหน้า เรือสมูธซี 22 ไฟไหม้และระเบิด บริเวณอู่เรือ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด จ.สมุทรสงคราม ว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทรวมมิตรด็อคยาร์ด ได้รับอนุญาตเป็นอู่ต่อเรือ เมื่อปี 2561 ขณะนี้สั่งปิดอู่ต่อเรือชั่วคราว และตรวจสอบผู้ที่ประสบเหตุ คือคนประจำเรือรวมถึงผู้ที่ลงไปตรวจสอบหลังเกิดเหตุ โดยรองอธิบดีรายงานว่ามีคนของอู่ต่อเรือที่เข้าไปอยู่บริเวณที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเรือสมูธซี 22 เป็นเรือที่มีน้ำมันเตา 30,000 ลิตร และเป็นดีเซลขับเคลื่อนเรือค้างอยู่ประมาณ 2,500 ลิตร เป็นเรือที่มีประกัน H&M คือประกันเรือและเครื่องยนต์ มูลค่าประกัน 60 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกของ P&I Clubs ซึ่งเป็นการประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองถึงบุคคลที่สาม มีมูลค่าอยู่ที่ 1 พันล้านเหรีญสหรัฐฯ
ด้าน นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุเรือลำนี้เป็นเรือเปล่า เตรียมการที่จะขึ้นอู่ในอีกไม่กี่วัน ซึ่งปกติจะมีการล้างระวางเรือ โดยเรือลำนี้ต่อขึ้นประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ถือว่ายังเป็นเรือใหม่ เป็นเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ที่มีจุดวาบไฟที่ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส คือเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันดิบ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความไวไฟ ต้องมีมาตรการรัดกุมในการขึ้นอู่ ต้องล้างถังและฟรีแก๊สคือไล่แก๊สออกจากระวางเรือจนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งที่จะก่อให้เกิดเหตุระเบิดได้ จึงยังเป็นข้อสงสัยอยู่ว่าเหตุใดจึงเกิดการระเบิด ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าการระเบิดเกิดขึ้นจากสิ่งใด โดยจะทราบผลในอีก 10 วัน
ทั้งนี้ นายสรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รายงานล่าสุดทราบว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนเรื่องของคดีตำรวจจะลงไปพิสูจน์ต่อไป สำหรับกรมเจ้าท่าขณะนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบ โดยตั้งประเด็นว่าการดำเนินการของอู่ต่อเรือ ทำตามขั้นตอนของการรับสินค้าอันตรายไว้ในการซ่อมบำรุงหรือไม่ รวมถึงเหตุอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากทั้งภายในและภายนอกของเรือซึ่งต้องตรวจสอบในทุกประเด็น
