อดีตโยมอุปัฏฐาก ร้อง ปปง.สอบเส้นทางการเงิน ครูบาไก่ ตั้งคำถามทองคำ 188 บาท หายไปไหน? เผย ครูบาไก่ แจ้งความได้ตามสิทธิ แต่หากแจ้งความเท็จ ก็เตรียมแจ้งความกลับ ลั่น "ถ้าไม่มีมูล หมามันไม่ขี้
วันที่ 23 ม.ค.66 เวลา 14.00 น. น.ส.วาสนา เคลือบสูงเนิน หรืออิคคิว และนางสาว คมคาย เวกนวล อดีตโยมอุปัฏฐากครูบาไก่ หรือพระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทองคำ ที่ครูบาไก่ กับพวก ได้ทรัพย์สินไปจากประชาชน
โดยนางสาวคมคาย เผยว่า วันนี้ตนเองนำเอกสารมายื่นให้ทาง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินของครูบาไก่ เพื่อให้อายัดบัญชีธนาคารของครูบาไก่ และพรรคพวก ป้องกันการโยกย้ายทรัพย์สิน และทองคำจำนวน 188 บาท ซึ่งทองคำจำนวน 188 บาทนั้น เป็นทั้งทองคำที่ญาติโยมถวาย และถวายเงินทำบุญ ให้ไปซื้อทองคำมา เพื่อนำมาหล่อเป็นพระองค์ปฐม องค์เล็ก ซึ่งตอนนี้ตนเองทราบข่าวว่าพระองค์ปฐมองค์นี้ได้หายไป ส่วนเส้นทางการเงินของครูบาไก่นั้นผิดปกติ เนื่องจากมีการโยกย้ายโอนเงินให้กับญาติ และผู้ชายที่ครูบาไก่ อ้างว่าเป็นลูกหลาน อีกทั้งครูบาไก่ มีการโฆษณาเชิญร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อจะสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด แต่หลังจากมีคนบริจาคมาแล้วกลับไม่มีการก่อสร้างใดๆเกิดขึ้นเลย
หากเล่าย้อนกลับไปช่วงประมาณ 4-5 เดือน ก่อนที่จะเกิดเรื่อง ตนเองและอิคคิว ได้ถอยห่างจากครูบาไก่ มาแล้ว เพราะหลังจากที่ตนเองทราบเรื่องของชายหนุ่ม ก็ได้มีการเตือนครูบาไก่หลายครั้ง แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม และยังมีการกล่าวหาว่าตนเองและอิคคิวยักยอกเงินของวัดมา ซึ่งมันไม่เป็นเรื่องจริง ตนเองจึงต้องออกมาปกป้องชื่อเสียง สิทธิ และปกป้องความศรัทธาของญาติโยม จุดแตกหักที่ทำให้ตนเองต้องออกมาแฉ เพราะครูบาไก่ อ้างว่า ตนเองและอิคคิวยักยอกเงินจำนวน 7 แสนบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินกฐิน และครูบาไก่โอนเงินให้ตนเองจริง แต่เป็นเงินที่ครูบาไก่ ต้องใช้หนี้ตนเอง เพราะยืมไปประมาณ 1.3 ล้านบาท
ส่วนเรื่องที่ครูบาไก่ ให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีตนเองนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียก และมองว่าเป็นสิทธิของครูบาไก่ที่สามารถทำได้ แต่หากพบว่าครูบาไก่แจ้งความเท็จ ตนเองก็จะแจ้งความกลับเช่นกัน เพราะการที่ออกมาพูดในครั้งนี้ ตนเองก็มีหลักฐานเช่นกัน และไม่คิดที่จะก้าวล่วงพระพุทธศาสนา การแฉครั้งนี้เป็นเพียงแค่เฉพาะตัวบุคคลที่กล่าวอ้างก็คือ ครูบาไก่ เท่านั้น
ส่วนเรื่องหลักฐานที่เป็นคลิปลับ ตอนนี้ตนเองได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบังคับการกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว เพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ได้ลักษณะของคลิปเป็นเรื่องทางเพศ จริงๆตนเองอยากบอกครูบาไก่ว่าให้ออกมายอมรับความจริง ก่อนที่คลิปๆนี้จะถูกเผยแพร่ ซึ่งภายในคลิปนั้นที่มอบให้กับตำรวจยืนยันว่า คือ ครูบาไก่ จริงและไม่มีการตัดต่อ ซึ่งกระบวนการทางกฎหมาย จะสามารถตรวจสอบได้ว่าภาพเหล่านั้นเป็นภาพตัดต่อหรือไม่ ส่วนเรื่องภาพการขี่เจ็ตสกี ขณะนั้นเป็นเรื่องที่ตนเองนั้นไม่สามารถห้ามได้ เพราะถือว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ ไม่สามารถห้ามครูบาอาจารย์ได้ ซึ่งครูบาไก่ เองก็รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
สำหรับประเด็นที่ว่าตนเองออกมาแฉ เพราะไม่พอใจเรื่องผลประโยชน์นั้น จึงอยากถามกลับว่า ตนเองมีผลประโยชน์อะไรจากที่นี่ เพราะตั้งแต่ปี 64 ที่ตนเองเข้ามา ก็มาสร้างวัด บูรณะวัด ให้คนรู้จัก ทำให้คนรู้จักครูบาไก่ แล้วตนเองจะล้มล้างเพื่ออะไร ส่วนเรื่องการสร้างเหรียญวัตถุมงคลนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชีครูบาไก่ทั้งหมด และสิ่งก่อสร้างภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น พระยืน ศาลา หรือแม้แต่เก้าอี้ที่ครูบาไก่นั่งแถลงข่าว ก็เป็นเงินส่วนตัวของอิคคิวทั้งหมด
สุดท้าย ตนเองอยากฝากถึงครูบาไก่ว่า "ตอนนี้เชื่อว่าครูบาไก่ว่า รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังทำอะไร และสิ่งที่ทำลงไปมันผิดขนาดไหน ครั้งหนึ่งครูบาไก่ว่าเคยบอกกับตนเองว่า ถ้าเกิดปัญหาตรงนี้ ท่านจะออกมายอมรับแบบลูกผู้ชาย แล้วสิ่งที่ท่านพูดอยู่ตรงไหน ซึ่งเรื่องนี้ครูบาไก่ว่าเคยยอมรับกับตนเองและอิคคิวว่าทำจริง แต่ขอโอกาสและขอชีวิตใหม่" จึงมีภาพเข้าถ้ำปฏิบัติธรรม เหมือนที่ตัวเองเคยให้ข่าว
ส่วนความเห็นส่วนตัวของตนเองนั้น มองว่า ครูบาไก่ควรจะต้องสึก และออกมายอมรับแบบลูกผู้ชายว่าสิ่งที่ทำลงไป อาจจะด้วยวัยของท่าน หรือ จะรู้เท่าไม่ถึงการอะไรก็แล้วแต่ แต่อยากให้ออกมาขอโทษประชาชน แล้วทุกอย่างมันก็จะจบ ไม่อยากให้มาดันทุรังแบบนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่ถอยกลับแน่นอน เพราะมาไกลแล้ว ตอนนี้ตนเองแจ้งความที่กองปราบ และ ปปง. หลังจากนี้ก็จะมีอีกหลายหน่วยงาน ที่ตนเองจะไปแจ้งด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าวันนี้ครูบาไก่ดูอยู่ และยังไม่ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ตนเองจะไม่หยุดเท่านี้ ส่วนเรื่องที่ครูบาไก่จะดำเนินคดีตนเองก็ยินดี เพราะเชื่อว่าเรื่องถ้าไม่มีมูล หมามันไม่ขี้
