ชาวรัสเซียในเมืองเชเลียบินสค์ จับจ่ายซื้ออาหารหมดอายุ หวังช่วยประทังชีวิตท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องมาจากนานาชาติคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เนื้อสัตว์มีราคาที่สูงมาก
วันนี้ (7 ก.พ. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่เมืองเชเลียบินสค์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย มีประชาชนจำนวนมากออกมาจ่ายตลาดซื้ออาหารที่ “หมดอายุแล้ว” ไปรับประทาน เนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตข้าวยากหมากแพง และค่าครองชีพสูงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นหลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน
โดยปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียทำให้สถานะทางเศรษฐกิจของรัสเซีย ถูกนานาชาติคว่ำบาตรอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ต้องมีการนำอาหารที่หมดอายุแล้วกลับมาขายเพื่อเลี้ยงปากท้องในยามวิกฤต โดยได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มชาวรัสเซียเกษียณอายุที่ได้เงินบำนาญเพียงเล็กน้อยในแต่ละเดือน
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าการซื้ออาหารหมดอายุจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแม้แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นก็พบว่า อาหารมีราคาสูงขึ้นมากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ชาวรัสเซียหลายคนเผยว่า แต่เดิมพวกเขามีกำลังที่จะซื้ออาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ประเภทไส้กรอกหรือซื้อเนื้อสัตว์ได้ไม่ยาก แต่ในตอนนี้ผู้คนไม่สามารถนำเนื้อสัตว์มาประกอบเมนูอาหารได้ เพราะมีราคาที่สูงมาก โดยเฉพาะเนื้อวัว
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งรัสเซียพบว่า ที่ผ่านมาในปี 2565 ผู้เกษียณอายุจะได้เงินบำนาญเฉลี่ย 20,000 รูเบิลรัสเซีย หรือประมาณกว่า 9,000 บาท
