ศาลฎีกาสั่งตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต "กนกวรรณ" อดีต รมช.ศึกษฯ ฐานผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ

ศาลฎีกาสั่งตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต "กนกวรรณ" อดีต รมช.ศึกษฯ ฐานผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ

View icon 816
วันที่ 22 ก.พ. 2566 | 14.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไม่รอด !! ศาลฎีกา พิพากษา นางกนกวรรณ พ้น รมช.ศึกษา พร้อมตัดสิทธิการเมือง ตลอดชีวิต ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ให้การเท็จ ออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (22 ก.พ.66) ว่า องค์คณะตุลาการศาลฎีกาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้อง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีที่นางกนกวรรณ ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 15 ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เนื้อที่ 30 ไร่เศษ โดยอ้างว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติในการครอบครองที่ดินต่อ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสวนสิทธิ และซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจาก นายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน และอ้างว่าได้มีการเข้าทำประโยชน์ ปลูกมะม่วง ต้นกระท้อนไผ่ตงและพืชผักสวนครัว แต่จากการตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศและการลงพื้นที่จริง พบว่าไม่ได้มีการเข้าทำประโยชน์ตามที่นางกนกวรรณกล่าวอ้างแต่อย่างใด พบว่าสภาพพื้นที่เป็นป่ารกทึบ หินโผล่ ไม่มีถนนตัดผ่าน สภาพพื้นดินไม่เหมาะสมกับการปลูกพืชเพราะเป็นหินกรวดและดินลูกรังผสม

โดยศาลได้ทำการสืบพยาน และรวบรวมหลักฐานมาประกอบการพิจารณา พบว่า นางกนกวรรณให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจสอบสวนสิทธิ จึงถือเป็นบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะออกโฉนดที่ดินได้ตามกฎหมาย ทำให้การออกโฉนดที่ดินฉบับดังกล่าวของกรมที่ดิน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของความเป็นรัฐมนตรีและความน่าเชื่อถือ แม้จะไม่ใช่ความรับผิดชอบของตนเองโดยตรงก็ตาม จึงก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรม

ด้วยพยานหลักฐานทั้งหมด ศาลจึงพิพากษาว่า นางกนกวรรณ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคหนึ่ง วรรคสาม วรรคสี่ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปี 2561 มาตรา 87 ประกอบ 81 และมาตรฐานทางจริยธรรม จึงให้นางกนกวรรณ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รวมทั้งไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 ขณะเดียวกันยังให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง นางกนกวรรณ เป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

สำหรับนางกนกวรรณ ถือเป็นนักการเมืองคนที่ 3 ที่ต้องผละจากตำแหน่ง ฐานความผิด ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยคนแรกคือ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จ.ราชบุรี โดยมิชอบ และ คนที่ 2 นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย จากกรณีการเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล