ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ปมพื้นที่ทับซ้อน รับตัวผู้บาดเจ็บ เป็นปัญหามายาวนาน ที่ทำให้เกิดศึกกู้ภัย อย่างเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มูลนิธิกู้ภัยร่วมกตัญญู - เพชรเกษม ถึงขั้นยกพวกตะลุมบอนกัน ด้าน โบ๊ท วิบูลย์นันท์ วอนหน่วยงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นี่คือภาพบางช่วงบางตอนของเหตุทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ชีพของมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันเรื่องการออกตรวจ และช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ประมาณก่อนเที่ยงคืน ที่ย่านสำราญราษฎร์ จากนั้นกู้ชีพทั้ง 2 หน่วย ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากันบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนจะมีปากเสียงกัน และทำร้ายกัน ตามคลิป
จากนั้น ทั้ง 2 ฝ่าย เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์, สน.นางเลิ้ง, สน.พระราชวัง และตำรวจงานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ต้องแจ้งผ่านทางวิทยุสื่อสารและนำกำลังเข้ามาควบคุมในพื้นที่มากกว่า 20 นาย และสั่งให้ทั้งคู่แยกย้ายกัน
พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพูดคุยกันอีกครั้ง และจะรายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลรับทราบ เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาการกระทบกระทั่ง และการปฏิบัติหน้าที่ในเขตทับซ้อนพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
ขณะเดียวกัน นายปฏิญญา วิบูลย์นันท์ หรือ "โบ๊ท" กรรมการบริหารมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทบกระทั่งกัน หลังจากมีพื้นที่ทับซ้อนกันของมูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกที่ไหน และความรุนแรงจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ยอมรับว่ามีความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง เหมือนเหตุกราดยิงที่ถนนเกษตรนวมินทร์ ระหว่าง 2 มูลนิธิ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงอยากวอนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจนครบาล ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข ลงมาแก้ไขปัญหาการทำงานของ 2 มูลนิธิอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวซ้ำขึ้นอีก
ส่วนด้านคดีความ ทางทีมข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่ สน.สำราญราษฎร์ ทราบว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ เพื่อหาสาเหตุ และติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
