สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เมื่อวานนี้ ตำรวจวางแผนเข้าจับกุมนายอำเภอแม่วงก์ พร้อมของกลางเงิน 12,000 บาท ที่เรียกเก็บเงินจากเจ้าของสนามไก่ชนโดยไม่ชอบ คาโต๊ะทำงาน หลังจับกุม ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้เสียหาย ยืนยันประกอบกิจการถูกต้อง แต่ถูกเรียกเก็บเงินไม่เป็นธรรม พร้อมกับเปิดหนึ่งในหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริง
นี่เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ นายนพดล เจ้าของสนามไก่ชน ผู้เสียหายที่ถูก นายประสิทธิ์ นายอำเภอแม่วงก์ เรียกเก็บเงินเหนือจากค่าธรรมเนียมตามปกติ นำมาเปิดเผยกับทีมสนามข่าว หลังจากที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนเข้าจับกุม นายประสิทธิ์ ได้พร้อมของกลางเงินสด 12,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ถูกเรียกเก็บอ้างว่าเป็นค่าดูแลสนามไก่ชน
นายนพดล ยืนยันว่า กิจการตนเองทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่ถูกต้อง หากไม่ยอมจ่ายเงินก็จะไม่ได้รับการต่อเอกสารใบอนุญาต กระทั่งเริ่มเห็นว่ามีการขออนุญาตเปิดสนามไก่ชนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อรายได้ จึงตัดสินใจร้องทุกข์ดำเนินคดี
ขณะที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. พร้อมตัวแทนหน่วยงานจาก สำนักงาน ป.ป.ท., ป.ป.ช. และ ป.ป.ง. ร่วมกันแถลงสรุปผลจับกุมผู้ต้องหา ระบุว่า การขอใบอนุญาตเปิดสนามไก่ชน จะมีค่าธรรมเนียมสังเวียนละ 220 บาทต่อเดือน ซึ่งผู้เสียหายมีสนามไก่ชน 6 สังเวียน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพียง 1,320 บาทต่อเดือน แต่นอกจากเงินจำนวนดังกล่าว ผู้ต้องหาได้เรียกเก็บเงินต่างหากอีกเดือนละ 3,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดูแลสนามฯ ซึ่งไม่ได้กำหนดให้มีการเรียกเก็บตามกฎหมาย ที่ผ่านมาผู้เสียหายจำยอมจ่ายไปแล้ว 2 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท แต่ต่อมามีปัญหาด้านการเงินจึงค้างจ่ายไว้ 3 เดือน กระทั่งถูกทวงถามบังคับให้จ่ายเงินบ่อยครั้ง จึงทนไม่ไหวเข้าแจ้งความร้องทุกข์
ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่รับไว้จะนำไปปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอฯ
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
สำหรับ นายประสิทธิ์ พบว่าเข้ารับตำแหน่งหน้าที่เป็นนายอำเภอแม่วงก์ ได้เพียง 1 ปี และอีกเพียงแค่ 4 เดือน จะเกษียณอายุราชการ
