ผู้เสียหายทนไม่ไหว รุมแฉอดีต สส. "อ." สารพัดโกง

View icon 28.3K
วันที่ 28 พ.ค. 2566 | 16.40 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ผู้เสียหายกว่า 20 คน ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของอดีต สส. ชื่อเล่นว่า "อ"  หลอกผู้เสียหายไปทำงานให้ แต่เบี้ยวไม่จ่ายเงิน มีหลายเคสหลายกรณี ต่อเนื่องมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน คาดว่าความเสียหายอาจสูงเกือบ 100 ล้านบาท นำเอกสารหลักฐานไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือ

ตัวแทนผู้เสียหายเล่าว่า อดีต สส. คนนี้มีชื่อเล่น "อ." เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แต่ปัจจุบันพรรคดังกล่าวถูกยุบไปเมื่อปีที่แล้ว มีพฤติการณ์หลอกลวง และไม่จ่ายเงินหลายอย่าง เช่น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา อดีต สส. "อ." จัดงานวันเกิดแบบโต๊ะจีน 4,000 ที่นั่งในจังหวัดสระบุรี มีการจ้างทีมงานมาจัดงาน จัดไฟ จัดกิจกรรมการละเล่นคล้ายงานวัด แต่เมื่อเลิกงานกลับไม่จ่ายเงินให้ทีมงานต่าง ๆ มีเพียงวงดนตรีที่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะเรียกเก็บเงินก่อนขึ้นแสดง อีกทั้งยังไปบอกให้พ่อค้าแม่ค้า นำเสื้อผ้าไปแจกให้ผู้ร่วมงาน และติดต่อร้านค้าข้าวสาร สั่งข้างสาร 5,000 ถุงไปแจก บอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเอง แต่สุดท้ายก็เบี้ยวไม่จ่ายเงิน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในงานดังกล่าวกว่า 500,000 บาท

นอกจากนี้อดีต สส. "อ." คนนี้ ยังเบิกถอนงบจาก กกต. ไปกว่า 17.7 ล้านบาท นำไปใช้จ่ายโดยที่กรรมการพรรคไม่เคยทราบ ไม่เคยมีการพูดคุยในการประชุมพรรค แต่กลับมีการปลอมเอกสารการประชุมส่ง กกต. ว่ามีการพูดคุยเรื่องการนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ จนสุดท้าย กกต.มีหนังสือทวงหนี้มาถึงกรรมการพรรคกว่า 60 คนแทน เพราะติดต่อหัวหน้าพรรคไม่ได้ ยังไม่นับที่ อดีต สส. อ. เบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าหาเสียงให้กับผู้สมัครแต่ละเขตกว่า 300 เขต ความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท และเบี้ยวจ่ายเงินเดือนพนักงาน แม่บ้านและลูกจ้าง ที่ทำงานในที่ทำการพรรค 7 เดือน จนหลายคนได้รับความเดือนร้อน ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน และถูกยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขี่มาทำงาน

ผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะอดีต สส. อ. มี สส. และรัฐมนตรีคนดังหลายคนช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ชาวบ้านมักจะเห็น อดีต สส. อ. ลงพื้นที่พร้อมกับรัฐมนตรีที่อ้างถึงเสมอ ๆ จึงเชื่อว่ามีความสนิทสนมกันจริง และรับงานต่าง ๆ และทุกครั้งเมื่อทวงถามเงิน อดีต สส. อ. ก็จะผัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็บล็อกช่องทางการติดต่อทุกช่องทาง

ล่าสุดหลังจัดงานวันเกิดแล้วก็หายตัวไป เพิ่งจะติดต่อมาเมื่อเช้า เพราะทราบว่า ผู้เสียหายจะมาร้องเพจสายไหมต้องรอด พร้อมกับข่มขู่ผู้เสียหายว่า จะฟ้องกลับฐานแจ้งความเท็จ ทำให้ผู้เสียหายหลายคนหวาดกลัว และหวั่นว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะถือเป็นอดีต สส. ที่มีอิทธิพลในพื้นที่

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคดีของผู้เสียหายทั้งหมดมีการแจ้งความไว้ในสถานีตำรวจท้องที่แล้ว ดังนั้นก็จะประสานไปติดตามความคืบหน้าคดีกับทางตำรวจให้ก่อน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หาก อดีต สส. รายนี้ทำผิดจริง ก็อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก และต้องถูกดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง