พิธา ยกทีม ก้าวไกล เข้าหารือ ACT ตั้งเป้าดัชนีคอร์รัปชันต้องดีขึ้น ฉายโรดแมป 100 วันแรก เชื่อเพียงคนดีไม่พอ ระบบต้องดีด้วย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ว่าที่ สส. พรรคก้าวไกล ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, วรภพ วิริยะโรจน์, พริษฐ์ วัชรสินธุ, รังสิมันต์ โรม และเบญจา แสงจันทร์ เข้าพบปะพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
โดยพิธา เผยว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน อันถือเป็นปัญหาสำคัญในสังคมไทยที่ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการพัฒนาอย่างมหาศาล จะเห็นได้ว่าตลอด 4 ปีในการทำงานของพรรคก้าวไกลในสภาผู้แทนราษฎร มีการเปิดโปงการทุจริตและการตรวจสอบการใช้อำนาจและงบประมาณภาครัฐอย่างเข้มข้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
แต่เมื่อพรรคก้าวไกลผ่านการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 จนได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นพรรคอันดับหนึ่งและเป็นแกนนำเจรจาจัดตั้งรัฐบาล เราจึงมีการทำ MoU กับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อวางกรอบแนวทางการบริหารประเทศร่วมกัน คือ “2.ทุกพรรคจะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที” และสำหรับแนวนโยบายที่จะทำร่วมกันก็คือ “7.แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน” แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลให้ความจริงจังกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามตัวชี้วัดต่างๆ รวมทั้ง Corruption Perception Index : CPI พบว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้คะแนนและลำดับอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ในรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ดังนั้น เราจึงมีเป้าหมาย ต้องการเร่งแก้ปัญหาการทุจริตให้เห็นผล ทำให้ดัชนี Corruption Perception Index : CPI ของประเทศไทยมีคะแนนและลำดับดีขึ้นได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวเพิ่มเติมว่า เราเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันต้องทำให้ ‘ระบบดี’ ด้วย เพื่อทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จึงมีหลักคิดสำคัญในการออกแบบระบบ คือจะต้องเป็นระบบที่ 1.ไม่มีใครอยากโกง 2.ไม่มีใครกล้าโกง 3.ไม่มีใครโกงได้ 4.ไม่มีใครโกงแล้วรอด
ด้าน นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ACT) เปิดเผยว่า ดีใจที่พรรคก้าวไกลติดต่อเข้ามาพูดคุยหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาคอรัปชัน เชื่อว่าพรรคมีความจริงจังในประเด็นนี้ เรียกว่าการมีเจตจำนงอย่างมุ่งมั่น (Political Will) และภาคการเมืองมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำให้ประชาชนมีความหวังว่าภาคการเมืองแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจังและยั่งยืน เราได้แลกเปลี่ยนบางประเด็นที่เป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะประเด็นการสร้างระบบนิเวศที่จะสามารถทำให้ทุกฝ่ายสามารถแก้ไขปัญหาร่วมกัน และมองเห็นโอกาสที่จะสามารถร่วมมือกันได้ต่อไปในอนาคต