สนามข่าว 7 สี - นอกจากกรณี สภ.บางแก้วแล้ว ยังมีอีกผู้กำกับอีก 2 พื้นที่คือภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ บอกว่าเตรียมออกหมายจับภายในสัปดาห์หน้า หลังพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้ง 2 นาย พยายามจะสั่งอายัดบัญชีเงิน 176 ล้านบาท ซึ่งเป็นของนายทุนสีเทา
โดยเงิน 176 ล้านบาท คือเงินอะไร เงินก้อนนี้เป็นเงินชายชาวจีน สัญชาติกัมพูชา นำมาฝากไว้ ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเอ็มควอเทียร์ พื้นที่ สน.ทองหล่อ แต่เจ้าของขาดการติดต่อไปนานหลายปี และธนาคาร ก็ออกมาบอกว่า มีหลายคนพยายามจะเข้ามาขอถอนเงิน หลายต่อหลายรอบ ทั้งทำหนังสือมอบอำนาจปลอม ทำพาสปอร์ตปลอม ส่งตัวแทนปลอม ๆ เข้ามาขอถอนเงิน แต่ไม่เคยมีใครถอนไปได้
จนกระทั่ง 24 มีนาคมที่ผ่านมา จู่ ๆ มีชายชาวกัมพูชา เดินเข้ามาขอถอนเงิน โดยแสดงตนเป็นเจ้าของบัญชี มีพาสปอร์ตปลอม ตราประทับตรวจคนเข้าเมืองเป็นตราปลอม เข้ามาถอนเงิน ธนาคารจึงแจ้งให้ตำรวจควบคุมตัวชายคนนี้ และยังให้การซัดทอดว่า เขาถูกว่าจ้างจากคนกลุ่มหนึ่ง ในนั้นเป็นคนระดับหม่อมราชวงศ์ และลูกชายอดีตอธิบดีกรมการปกครอง ตำรวจก็เลยไปเชิญตัวมาชี้แจง แต่สุดท้ายไม่สามารถแจงได้ ก็เลยโดนตั้งข้อหา
เรื่องนี้กลับไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อสืบสวนต่อพบว่าบัญชี 176 ล้านบาท ที่ถูกทยอยโอนเข้ามาทีละล้าน หรือหลาย ๆ ล้าน ตั้งแต่ปี 2561 สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเงินที่ได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยังมีตำรวจหลายท้องที่ พยายามที่จะอายัดบัญชีนี้ด้วย
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกพฤติกรรมการอายัดเงินบัญชีนี้ ไม่ได้ต่างจากพฤติกรรมของ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ นั่นคือ อายัดไว้ เพื่อเรียกเจ้าของบัญชีเข้ามาชี้แจง และอาจเรียกรับประโยชน์ เพื่อแลกกับการถอนอายัด โดย 1 ใน 2 พื้นที่ สั่งอายัดเงิน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีรายงานการสืบสวนด้วยซ้ำไป
