สุมไฟไล่ยุงลามไหม้คอกวัววอด โทรศัพท์พัง ขัดข้อง โทรแจ้งดับเพลิงไม่ติด โชคดีวัวไม่ได้ผูก วิ่งหนีตายทัน ชาวบ้านต้องช่วยสกัดไฟกว่าชั่วโมง จึงดับได้
ไฟไหม้คอกวัว เมื่อกลางดึกวานนี้ (14 มิ.ย.2566) บริเวณคอกวัวตรงสวนท้ายหมู่บ้าน เหล่าจั่น ต.ดงแดง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ของนายชูชีพ อายุ 73 ปี
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นคอกวัว หลังคามุงด้วยสังกะสี ใช้ไม้เป็นโครงหลังคาและล้อมรอบบริเวณคอกด้วยไม้ ภายในคอกยังเป็นที่เก็บฟางก้อนประมาณ 100 ก้อน โดนไฟไหม้ทั้งหมด
นายชูชีพ เจ้าของคอกวัว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงได้รีบมาดูที่บริเวณคอกวัว เห็นไฟกำลังลุกไหม้ จึงได้เรียกให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยกันดับไฟก่อนเป็นเบื้องต้น จากนั้นรีบโทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือ กับทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลตำบลดงแดง แต่ปรากฏว่า โทรไปครั้งแรกเขาบอกว่าฟังไม่ชัด จึงโทรไปอีกประมาณ 3-4 ครั้ง ไม่สามารถติดต่อได้ มีเพียงแต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงประมาณ7-8 คน ช่วยด้วยการลากสายยางฉีดน้ำประปา ช่วยดับและสกัดไฟไม่ให้ลุกลาม เป็นเวลาประมาณกว่า 4 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ไฟไหม้คอกวัวครั้งนี้ นายชูชีพ บอกว่า เสียใจ เพราะได้รับความเสียหาย ขอความช่วยเหลือส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาเพลิงไหม้โดยตรงไม่ได้ ภายหลังด้านเทศบาลตำบลดงแดง ได้ชี้แจงบอกว่า ระบบสื่อสารโทรศัพท์ขัดข้องโดยไม่ทราบเหตุ ไม่ใช่ไม่รับสาย จึงไม่ได้ไปช่วย
ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ นายชูชีพ ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของตนเอง จากการที่ ช่วงตอนหัวค่ำ ได้สุมไฟไล่ยุงให้วัวเป็นปกติทุกวัน โดยไม่คาดว่าจะเกิดเหตุร้าย สาเหตุคาดว่าอาจจะเกิดจากสะเก็ดไฟ ที่โดนลมพัดปลิวไปโดนก้อนฟางที่เก็บไว้ ในคอกวัว ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่ยังโชคดีที่วัว 4 ตัวในคอกไม่ได้ล่ามเชือก หนีออกมาได้จึงไม่โดนไฟคลอกตาย
เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าอยากให้เป็นอุทาหรณ์ แห่งความไม่ประมาทและต้องหวังพึ่งตนเองรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้
ส่วนเหตุระบบสื่อสารขัดข้อง ก็ควรเร่งแก้ไข และมีทางแจ้งเหตุสำรอง ไม่ใช้พอเกิดเหตุ แล้วเกิดความเสียหาย ซึ่งไม่น่าจะเกิด เพียงเพราะข้ออ้างที่ว่าโทรศัพท์เสีย รวมทั้งจะฝากถึงพี่น้องเกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝน ยุงเยอะ ถ้าจะสุมไฟไล่ยุง ก็ให้ระมัดระวังมากขึ้น
