ชัยธวัช เผยยังไม่ได้ข้อสรุป ลดเพดาน 112 และให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่

ชัยธวัช เผยยังไม่ได้ข้อสรุป ลดเพดาน 112 และให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่

View icon 662
วันที่ 20 ก.ค. 2566 | 17.47 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
“ชัยธวัช” เผยยังไม่ได้ข้อสรุปลดเพดาน 112 และให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ รอมติพรรค เผย 1-2 วันนี้ชัดเจน ชี้ช่องประชาชนยื่นศาล รธน.ตีความข้อบังคับ 41 ให้เสนอ “พิธา” ซ้ำได้ 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เผยว่า วันนี้ 20 กรกฎาคม มีการหารือกันถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ ส่วนกรณีที่ไปคุยกับเพื่อไทย ก็เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ว่าจะประเมิน แต่ละฉากทัศน์อย่างไรบ้าง ทิศทางเรื่องหลัก ยังยืนยันว่า ต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ให้สำเร็จ

ส่วนในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หรือให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น  นายชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้ต้องมีมติจาก กรรมการ และ สส.พรรคก่อน ส่วน นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่เสนอแก้ไข ม.112 นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย และขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปอะไร

ดูแนวโน้มแล้วการประชุมครั้งหน้าจะเป็นการประชุมที่พลิกจากพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า จริงๆทางนายพิธา เคยแถลงไว้ ถ้าประเมินแล้วโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ โดยอยู่ในกรอบการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรค และทำตาม MOU ที่ทำร่วมกันไว้ ยังไม่ได้คุยไปถึงขั้น แก้ไข MOU และ แก้ไบ นโยบายของ ก้าวไกล

นายชัยธวัช เผยด้วยว่านายพิธา ยังจิตใจดี แข็งแรงดี 1-2 วันนี้ ขอไปพักผ่อนกับลูกสาว และจะกลับมาทำงานอีกครั้งในวันเสาร์นี้ และ ภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความชัดเจน ทุกเรื่องในการทำงานร่วมกัน ของ 8 พรรค เพราะมีเวลาจำกัดแล้ว จนถึงตอนนี้ มีโอกาสที่ พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน หรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่า คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนและสำหรับประเทศ คือพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลและมาบริหารประเทศ

ส่วนการเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำได้อีกตามที่ มีนักวิชาการแนะนำนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องของที่ประชุม สส.และที่ประชุมกรรมการบริหารจะประชุมกัน และจะถือเป็นวาระหลักที่ต้องพูดคุยกันด้วย แต่เชื่อว่า ยังไม่ถึงขนาด เสนอชื่อซ้ำได้

ส่วนเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้ไม่เข้าข้อบังคับที่ 41 เพื่อให้เสนอชื่อนายพิธาได้อีกนั้น ที่ต้องลองดู ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรเข้าข้อบังคับที่41 แต่เพราะมีการพยายามไปตีความว่าเข้าข้อบังคับที่41 ทำให้มองว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผล ข้อบังคับที่ 41 ใช้กับญัตติทั่วไปจริงๆ ซึ่งหลังจากที่สภามีมติไปแล้วเมื่อวานนี้ แม้แต่นักกฎหมายที่อาจจะดูเป็นคนฝ่ายกับฝ่ายประชาธิปไตย ก็ยังรับไม่ได้ ก็ถือว่า เป็นการลงมติที่เป็นปัญหาจริงๆสำหรับสภาชุดนี้

ส่วนเรื่องว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้น ยังไม่ได้พูดคุยกันในพรรค แต่ประชาชนก็สามารถไปยื่นได้

ส่วนการประชุมแกนนำ 8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไปจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า ก่อนการประชุมรัฐสภา ในวันที่ 27 ก.ค.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง