แถลงตั้งรัฐบาล 11 พรรค พรรค 2 ลุง ได้พรรคละ 4 เก้าอี้

View icon 77
วันที่ 21 ส.ค. 2566 | 16.21 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันที่ 22 สิงหาคม นอกจากเป็นวันที่อดีตนายกฯ นายทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ที่ประชุมร่วมรัฐสภา จะมีการประชุมโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งล่าสุด มีการแถลงแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 2 พรรคลุง ได้พรรคละ 4 เก้าอี้

แถลงตั้งรัฐบาล 11 พรรค พรรค 2 ลุง ได้พรรคละ 4 เก้าอี้
ชัดเจนแล้วสำหรับการตั้งรัฐบาล วันนี้ เวลา 13.40 น. 11 พรรคการเมือง นำโดยพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง ที่รัฐสภา

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรครวม 11 พรรค จำนวน 314 เสียง ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้ ได้มีมติร่วมกันเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยต่อรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินการรวบรวมพรรคต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลดังนี้

- พรรคภูมิใจไทย 71 ที่นั่ง  ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง
- พรรคพลังประชารัฐ 40 ที่นั่ง ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
- พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 ที่นั่ง ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง 
- พรรคชาติไทยพัฒนา 10 ที่นั่ง ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
- พรรคประชาชาติ 9 ที่นั่ง ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
- พรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 8 กระทรวง รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรวม 9 ตำแหน่ง                                                                                        
- พรรคอื่น ๆ อีก 5 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง, พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง, พรรคท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง, พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้เชิญหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือ ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายของแต่ละพรรคมาตกลงเรื่องการร่วมมือและแบ่งงานกันทำ โดยทุกพรรคบรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ เป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต, ที่ดินทำกิน, ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ, เพิ่มราคาพืชผลเกษตร, แก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้, กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ และจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และยังคงไว้ในส่วนของหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

ทั้งนี้ พรรคร่วมจะนำนโยบายเข้ามาบูรณาการร่วม พร้อมปรับ เสริม หรือประสานนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ให้เป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และนำมาจัดทำเป็นนโยบายร่วมกัน เพื่อแถลงต่อรัฐสภาต่อไป

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาสำคัญลำดับแรกที่ต้องเร่งแก้ไขเพราะประชาชนกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทำให้ไม่อาจทอดเวลาไปมากกว่านี้ แม้พรรคเพื่อไทยจะเผชิญกับวาทกรรม หรือ คำกล่าวหาที่รุนแรงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รับรู้ความขัดแย้งดังกล่าวด้วยใจที่เป็นธรรม และตั้งใจมุ่งสู่เป้าหมายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นเป้าหมายหลักในวาระนี้คือการเข้ามาร่วมรับผิดชอบในวาระประเทศและวาระของประชาชน

และถึงแม้จะมีอดีตพรรคในรัฐบาลที่แล้วร่วมรัฐบาล แต่ทุกพรรคจะร่วมกันทำงานกับพรรคเพื่อไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ดังเช่นที่ทุกพรรคการเมืองได้เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย 

ชลน่าน พร้อมลาออก แต่ให้จบภารกิจตั้งรัฐบาลก่อน
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ให้สัมภาษณ์หลังการแถลง ตอบคำถามกรณีพรรคเพื่อไทยจะชี้แจงอย่างไร ในการดึงพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาลว่า ไม่ต้องชี้แจง เพราะในแถลงการณ์ก็ชัดอยู่แล้วว่ามีความจำเป็นที่ต้องเอาพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติมาร่วมรัฐบาล เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ 312 เสียงเดิม

โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เหตุผลที่ต้องเอา 2 พรรคนี้มา เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ถ้าไม่เอามาจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่นอน และเหตุการณ์ที่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แน่นอน อะไรจะเกิดอะไรขึ้น ไม่คาดการณ์ อาจจะเป็นผลร้ายต่อประเทศได้

ส่วนตนจะลาออกหรือไม่ ตั้งใจที่จะประกาศความรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ปฏิเสธว่าจะไม่ลาออก ยินดีลาออกแน่นอน แต่ภารกิจการทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลในส่วนพรรคเพื่อไทยให้สำเร็จ วันที่เสนอชื่อในส่วนคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเสร็จ ตนประกาศอย่างเป็นทางการทันที

เศรษฐา ยอมรับเจ็บปวด เพื่อไทย ถูกด้อยค่า
เศรษฐา ยอมรับต้องกลืนเลือด เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อ แต่ส่วนตัวรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้ง เมื่อพรรคถูกด้อยค่า โดยวันพรุ่งนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

เมื่อเวลา 15.20 น.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับบรรดา สส. โดยนายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง และสิ่งที่เราพูดไประหว่างเลือกตั้ง ซึ่งอยู่บนบรรทัดฐานว่า เราต้องชนะแลนด์สไลด์ แต่สุดท้ายเราต้องกลืนเลือด แล้วพาพรรคเพื่อไทย เดินไปข้างหน้า และส่วนตัวรู้สึกเป็นเกียรติ ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) 

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังขอบคุณนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เข้ามาช่วยดูแลหลาย ๆ อย่าง และต้องออกจากพรรคไป เหมือนอีกหลายคน เพราะมีอุดมการณ์อันแรงกล้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง