ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีคนร้ายโหดบุกใช้มีดสปาร์ตากระหน่ำฟันเจ้าของร้านขายของฝากและลูกสาวบาดเจ็บสาหัส ที่จังหวัดนครปฐม ล่าสุด ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว ขณะหลบหนีไปกบดานที่จังหวัดนครราชสีมา
เป็นภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ขณะคนร้ายขับรถกระบะจอดหน้าร้านขายของฝาก ริมถนนเพชรเกษม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และคนขับลงจากรถพร้อมกับอาวุธมีดเดินเข้าไปในร้าน ใช้มีดฟันลูกสาวเจ้าของร้าน ขณะนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ และตรงไปฟันชายเจ้าของร้านหลายครั้ง ก่อนกระชากสร้อยคอ พร้อมพระเลี่ยมทอง และสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 16 บาท หลบหนีไป
ตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร จนรู้ตัวคนร้าย และนำไปสู่การออกหมายจับหลังวันเกิดเหตุ 1 วัน พบว่าคนร้ายขับรถกระบะสีฟ้าแต่งซิ่ง หลบหนีไปตามถนนเพชรเกษม ขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 ผ่านเข้าเขตอำเภอพุทธมณฑล ผ่านเข้าอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี แล้วมุ่งหน้าไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นจีพีเอสคนร้ายหยุดหายไปที่จังหวัดอุบลราชธานี
ต่อมาตำรวจก็เฝ้าสังเกตพฤติกรรม จนพบคนร้ายขับรถย้อนกลับมาที่จังหวัดนครราชสีมา จอดรถทิ้งไว้ ตำรวจจึงเฝ้าจนพบคนร้ายทั้ง 2 คน กลับมาที่รถจึงจับกุมไว้ได้ ตั้งแต่ช่วงเย็นวาน และรับสารภาพว่า หลังเกิดเหตุได้นำสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือของกลางไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวไปที่ร้านทองเพื่อตรวจยึดของกลาง สาเหตุเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน เพราะติดหนี้พนันจากประเทศเพื่อนบ้าน และยังบอกว่าทำงานเป็นพนักงานส่งของที่จังหวัดนครราชสีมา เคยมาส่งของที่จังหวัดนครปฐม เห็นเจ้าของร้านใส่สร้อยทองเส้นใหญ่จึงคิดก่อเหตุ
ทีมข่าวลงพื้นที่มาที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบ นายเอนก อายุ 66 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งถูกมีดฟันตามร่างกายหลายจุด โดยเฉพาะศีรษะและแขน ถูกเย็บกว่า 100 เข็ม เมื่อคืนที่ผ่านมาแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ส่วนบุตรสาวอาการปลอดภัยดี
หลังทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ก็ดีใจ และขอบคุณตำรวจที่ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่โหดร้าย แต่ก็ไม่คิดอาฆาตและให้อภัยผู้ที่ก่อเหตุ เพราะเขาคงมีปัญหา และครอบครัวเดือดร้อน ซึ่งบ่ายวันนี้ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ
