พบซากโลมาแม่น้ำแอมะซอน หรือ โลมาสีชมพู 120 ตัว ลออยตายอยู่ในทะเลสาบ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแอมะซอน ประเทศบราซิล ผู้เชี่ยวชาญคาดเป็นผลจากภัยแล้งและอุณหภูมิร้อนจัด
วันนี้ (3 ต.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบซากโลมาแม่น้ำแอมะซอน 120 ตัว ลอยอยู่ในทะเลสาบเทเฟ (Lake Tefe) แม่น้ำสาขาของแม่น้ำแอมะซอน ในประเทศบราซิล
ทางผู้เชี่ยวชาญคาดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากภัยแล้งและอุณหภูมิที่ร้อนจัด โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 ก.ย. 66) พบซากโลมาอย่างน้อย 70 ตัว โผล่ขึ้นมา เมื่ออุณหภูมิของน้ำในทะเลสาบสูงถึง 39 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันของปีถึง 10 องศาเซลเซียส
โดยนักวิจัยธรณีศาสตร์ของสถาบันมามิเราอา (Mamirauá Institute) กล่าวว่า ความลึกและอุณหภูมิของน้ำเป็นปัจจัยหลักของการตายของโลมา แต่ก็ยังไม่ตัดสาเหตุอื่นออกไปอย่างเช่น โรคระบาดหรือน้ำเสีย
ทั้งนี้ โลมาแม่น้ำแอมะซอน หรือ โลมาสีชมพู เป็นหนึ่งในโลมาน้ำจืดเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่เหลืออยู่ในโลก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ปลาหลายพันตัวในแม่น้ำแอมะซอนก็ตายเช่นเดียวกัน เนื่องจากขาดออกซิเจนในน้ำ ซึ่งการตายของปลาและโลมาอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่า ความร้อนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกอาจมากเกินขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในพื้นที่เสี่ยงได้
