องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และตาก

View icon 104
วันที่ 9 ต.ค. 2566 | 20.09 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย จำนวน 2,904 ถุง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอศรีสำโรง โอกาสนี้ ได้ร่วมประชุมรับฟังสถานการณ์ การแก้ไขปัญหา เพื่อให้การช่วยเหลือราษฎรด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พร้อมลงพื้นที่ เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย ในตำบลศรีสำโรง 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง จังหวัดสุโขทัย เกิดฝนตกสะสมและตกหนัก ประกอบกับมีแม่น้ำยมไหลผ่านอำเภอต่าง ๆ ต้องรับการระบายน้ำจากพื้นที่จังหวัดต้นน้ำ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมแม่น้ำ ถนน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ ได้รับความเสียหายใน 7 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 4,000 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน

ที่จังหวัดตาก เชิญสิ่งของพระราชทาน จำนวน 2,737 ถุง ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสามเงา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นผู้แทนรับมอบ โอกาสนี้ ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรและเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ และได้ร่วมประชุมรับฟังสถานการณ์ การแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือราษฎร ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ

จากนั้น ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอสามเงา 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือ

จังหวัดตาก เกิดฝนตกสะสมและตกหนักในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ และพื้นที่เขตรอยต่อจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมน้ำ ถนน พื้นที่การเกษตร พื้นที่เลี้ยงสัตว์ บ่อเลี้ยงปลา และสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายใน 2 อำเภอ 4 ตำบล 32 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 8,000 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือแล้ว

ข่าวอื่นในหมวด