ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจกองปราบฯ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาวุธปืนเถื่อนผิดกฎหมาย เข้าตรวจค้นพื้นที่ 21 จุด จับกุมผู้ต้องหาจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เคยขายกระสุนให้กับเด็กชาย อายุ 14 ปี คดีกราดยิงในห้างฯ พารากอน และเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายในคดีนี้ด้วย
ปฏิบัติการนี้ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 21 จุด ใน 12 จังหวัด กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรสาคร,สมุทรปราการ,พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, อุดรธานี, พิจิตร, เชียงใหม่, กาญจนบุรี, นครศรีธรรมราช ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายซื้อ ขายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน มี 1 คน ที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายอภิเชษฐ์ อายุ 42 ปี กระทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต คนนี้เป็นผู้ต้องหารายสุดท้าย ที่ขายกระสุนปืนให้กับเด็กชาย อายุ 14 ปี ในคดีกราดยิงภายในห้างฯ สยามพารากอน และจัดส่งให้กับผู้ก่อเหตุไปเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ส่วนอีก 7 คนที่เหลือ เป็นการจับกุมซึ่งหน้า ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน พร้อมของกลาง ปืน 12 กระบอก มีทั้งปืนสั้น ปืนยาว แบลงก์กัน ปืนไทยประดิษฐ์ กระสุนขนาดต่าง ๆ รวม 110 นัด และอุปกรณ์ส่วนควบอีก 22 ชิ้น
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 8 ราย กลุ่มนี้เป็นคนที่เปิดเพจในแพลตฟอร์มต่าง ๆ หลอกผู้เสียหายว่า สามารถจัดหาปืน และกระสุนให้ได้ แต่สุดท้ายหลอกลวง ไม่ส่งสินค้าให้ตามที่ตกลง จนถูกผู้เสียหายเข้าแจ้งความในช่วงเดือนนี้ และศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ฐานฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการสอบปากคำ ในจำนวนนี้มี 5 คน ที่ยอมรับว่า ได้สร้างเพจต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อนหลอกขายอาวุธปืนประเภทต่าง ๆ จริง ส่วนอีก 3 คน รับว่าทำหน้าที่เป็นบัญชีม้าให้กับขบวนการนี้ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าในช่วง 2 เดือน ผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ได้หลอกขายปืนทิพย์ให้ผู้เสียหายไปมากกว่า 180 คน รวมความเสียหายกว่า 650,000 บาท
นอกจานี้ ตำรวจสอบสวนกลางยังได้ประสานปิดกั้นเว็บต่าง ๆ ไปอีก 146 เพจ จึงต้องฝากเตือนประชาชนว่า อย่าไปเสียเงินหลงซื้ออาวุธปืนแบบนี้ เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีด้วย
สำหรับคดีกราดยิงในห้างฯ พารากอน ตำรวจ สน.ปทุมวัน บอกว่า คดีคืบหน้าไปมาก แต่เพราะช่วงที่ผ่านมามีการโยกย้ายตำแหน่ง ทำให้ต้องรอหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนใหม่ มาศึกษารายละเอียดสำนวนคดีทั้งหมด คาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดใหญ่ ว่าจะสรุปสำนวนคดีนี้ได้เมื่อใด
ส่วนการสอบปากคำเด็กชาย ผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวให้การภาคเสธ ให้การยอมรับที่มาที่ไปของอาวุธปืน แต่ยังไม่รับสารภาพข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ อ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งคดีนี้ตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
