รวบหนุ่ม 24 จี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อได้เงินไป 900 บาท อ้างนำเงินไปซื้อข้าวสารให้ภรรยากับแม่ ส่วนที่ต้องเสพยาบ้า เพราะต้องการควงเวรทำงานให้ได้เงินมากๆ โดยไม่ได้ใช้เงินค่าแรงจากการทำงาน ไปซื้อยาบ้า แต่อาศัยรับจ้างไปซื้อยาบ้าให้กับพรรคพวกแลกกับยามาเสพเอง
ภาพวงจรปิดร้านสะดวกซื้อ สามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.เวลา 04.40 น.มีรถเก๋งมาจอดด้านข้างร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่ชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม. เดินมาภายในเป็น สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีกรมท่า สวมหมวกกันน็อกแบบคลุมศีรษะเต็มใบสีดำ เดินมาในร้านสะดวกซื้อ พร้อมแจ้งพนักงานว่าจะขอแลกเงิน 500 พอพนักงานก้มลงไปเอาเงินจากลิ้นชักขึ้นมาเพื่อจะนับ คนร้ายก็ชักปืนออกมาจี้ให้ส่งเงินมาเร็วๆพร้อมบอกว่ามีเท่าไรส่งมา จากนั้นคนร้ายรีบออกไปขับรถเก๋งที่จอดสตาร์ทรถทิ้งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเงินที่ได้เป็น 900 บาท
หลังจากนั้น พนักงานสอบสวน สภ.สามกระทายได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เร่งติดตามจับตัวคนร้ายนี้ให้ได้ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. มีนางสนัสนันท์ อายุ 34 ปี เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ เข้ามาแจ้งว่าเมื่อเวลา ประมาณ 12.20 น.ได้มีชายไม่ทราบชื่อ รูปร่างสูง ผอม ขับรถเก๋งโตโยต้าสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดที่หน้าบ้านและได้เดินเข้ามาขโมยนกเขา พร้อมกรงที่แขวนไว้หน้าบ้าน จำนวน 2 ตัว มูลค่า 5,000 บาท หลบหนีไป พร้อมได้นำภาพวงจรปิดที่บันทึกคนร้ายก่อเหตุในวันนั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งตรงกับรถเก๋งคันที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ จึงได้สืบสวนข้อมูลจึงทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน กน.2003 ประจวบฯ ตรวจสอบผู้ครอบครองชื่อนายธนาวุธ อายุ 24 ปี จากนั้นจึงขอหมายจับ และติดตามพบ นายธนาวุธ อยู่ในบ้านจึงได้แสดงตัวขอพร้อมหมายจับ และเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบ ปืนพลาสติก สีเทา 1 กระบอก กางเกงขายางสีกรมท่า รองเท้าแตะสี ดำ 1 คู่ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบฯ
ด้านนายธนาวุธ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพกับผู้สื่อข่าว ด้วยสีหน้าที่เศร้าสลดน้ำตาคลอเบ้าสำนึกผิดว่า ตนเองทำงานรับจ้างเป็น รปภ. ของบริษัทแห่งหนึ่งได้ค่าแรงวันละ 350 บาท เฝ้าดูแลความปลอดภัยให้กับสำนักงาน อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะได้รับค่าแรงทุก 15 วัน เมื่อครบกำหนดตนเองขอเบิกเงินกับบริษัท จำนวน 200 บาท เพื่อที่จะเอาไปซื้อข้าวสาร 5 กิโลกรัม ให้ภรรยากับแม่ยาย ซึ่งเจ็บป่วยไม่สบายอยู่ที่บ้าน เนื่องจากข้าวสารหมด และไม่มีเงินซื้อ จึงได้ขอเบิกเงิน แต่ทางบริษัทปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า ตนเองหลับเวรยาม ขณะปฏิบัติหน้าที่ และสั่งพักงาน ตนเองไม่มีเงินจึงจำใจวางแผนทำทีไปขอแลกเงินร้านสะดวกซื้อ พอสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนพลาสติกไปจี้ปล้นเอาเงินจาก พนักงาน เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อข้าวสารให้กับครอบครัว และได้เงินไป จำนวน 900 บาท
จากนั้นจึงขับรถหลบหนีไป ถ้าหากไม่เชื่อก็ไปถามภรรยาดูได้ว่าเงินซื้อข้าวสารในบ้านหมดจริงหรือไม่ ส่วนที่ตนเสพยาบ้าก็ เพราะต้องการควงเวรทำงานให้ได้เงินมากๆ ซึ่งตนไม่ได้ใช้เงินค่าแรงจาก รปภ.ไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่อาศัยรับจ้างไปซื้อยาบ้าให้กับพรรคพวกแลกกับยา
