อุดรธานีมืดสนิท เจอโจรแสบหลบมุมกล้องลักตัดสายไฟ 3 ครั้งในหนึ่งเดือน

อุดรธานีมืดสนิท เจอโจรแสบหลบมุมกล้องลักตัดสายไฟ 3 ครั้งในหนึ่งเดือน

View icon 140
วันที่ 16 ธ.ค. 2566 | 10.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โจรแสบอุดรธานี หลบมุมกล้องลักลอบตัดสายหม้อแปลงไฟฟ้าใต้ดิน เดือนเดียวโดนไปแล้ว 3 ครั้ง เสียหายกว่า 15,000 บาท ทำย่านเศรษฐกิจมืดสนิทยังประเมินความเสียหายไม่ได้

อุดรธานีเจอลักสายไฟ วานนี้(15 ธ.ค.2566) เมื่อเวลา 17.10 น. พ.ต.ท.กุศล สิทธิขันแก้ว สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายลักตัดสายไฟหม้อแปลงระบบไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ถนนศรีสุข เขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่งผลให้อาคารพาณิชย์ 20 คูหา ไฟฟ้าดับ จึงรุดออกไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ กฟภ.อุดรธานี สาขา 1 กำลังเร่งดำเนินการติดตั้งเชื่อมสายไฟฟ้าหม้อแปลงให้ใหม่ ตรวจสอบพบว่า สายนิวตัน และสายกราวด์ขนาดใหญ่ ความยาวรวมกันประมาณ 10 เมตร ถูกคนร้ายลักตัดเอาไป มูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 บาท และภายในเดือนนี้ถูกคนร้ายลักตัดสายไฟหม้อแปลงระบบไฟฟ้าใต้ดินไปแล้ว 3 แห่งภายในครึ่งเดือน และถูกโจรกรรมในลักษณะเดียวกันทั้ง 3 ครั้ง

ครั้งที่หนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 เป็นสายนิวตัน และสายกราวด์ หม้อแปลงไฟฟ้าระบบใต้ดิน ที่ติดตั้งอยู่ริมถนนสุรการ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กฟภ.อุดรธานี สาขา 2 (นิตโย)
ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 เป็นสายนิวตัน และสายกราวด์หม้อแปลงไฟฟ้าริมถนนโพศรี
ครั้งที่สาม วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ซึ่งทุกครั้งคนร้ายก่อเหตุเหมือนกันทุกครั้ง มูลค่าความเสียหายทั้ง 3 แห่ง มากกว่า 15,000 บาท และครั้งนี้เจ้าหน้าที่ กฟภ.อุดรธานี ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการเชื่อมสายไฟฟ้าจากตู้คอนโทรล และหม้อแปลงไฟฟ้าให้ใหม่ ถึงจะปล่อยกระแสไฟฟ้าให้พี่น้องประชาชนได้ใช้กัน

นายชยพล มณีโชติ อายุ 45 ปี หัวหน้าแผนกปฏิบัติการ กฟภ.อุดรธานี สาขา 1 เปิดเผยว่า รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ไฟฟ้าดับบริเวณอาคารพาณิชย์ห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ฯ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. จึงเดินทางมาตรวจสอบอยู่นานนับชั่วโมง จนพบสาเหตุว่าสายนิวตันและสายกราวด์ของหม้อแปลงไฟฟ้าระบบใต้ดิน ถูกคนร้ายลักตัดเอาไป และครั้งนี้เป็นครั้งที่สามภายในเดือนธันวาคม 2566 และทุกครั้งแจ้งความไว้แล้ว ส่วนความเสียหายของ กฟภ.อุดรธานี ทั้ง 3 ครั้ง มากกว่า 15,000 บาท แต่ความเสียหายของผู้ประกอบการในอาคารพาณิชย์ 20 คูหา ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่ได้รับความเดือดนั้น ยังประเมินไม่ได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สังเกตว่าทุกครั้งคนร้ายลงมือก่อเหตุเหมือนกัน และรู้เรื่องระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดี โดยมาดูลาดเลาและสถานที่ก่อนลงมือก่อเหตุ เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุ คนร้ายจะรู้มุมกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามอาคารบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ รวมทั้งมุมกล้องวงจรปิดของสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานีด้วย เนื่องจากสองครั้งที่ผ่านมา ขอดูกล้องวงจรปิดเทศบาลนครอุดรธานี และอาคารบ้านเรือนประชาชน ปรากฏว่ากล้องส่องไม่ถึงจุดที่คนร้ายก่อเหตุ ครั้งนี้ก็เช่นกัน จึงขอฝากถึงคนร้ายที่ก่อเหตุว่า จะติดตามตัวจับให้ได้ และฝากตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เกรงจะมาก่อเหตุซ้ำอีกหากยังจับตัวไม่ได้