เช้าข่าว 7 สี - ภารกิจนายกรัฐมนตรี วัดสุดท้าย ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะเสนอวาระการพัฒนาที่สำคัญของอาเซียนแล้ว ยังได้หารือเรื่องการค้า และการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี พอใจกับผลการเดินทางปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ในครั้งนี้ ซึ่งก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานอาเซียน ได้นำเสนอยุทธศาสตร์ การค้า และการลงทุนระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว เร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนเรื่องของการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ รัฐบาลไทย และญี่ปุ่น พร้อมที่จะผลักดันเรื่องของการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจยานยนต์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์สันดาป แต่จะผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อีวี รวมถึงร่วมมือกับญี่ปุ่น ในการนำเทคโนโลยีมา ศึกษา วิจัย และผลิตรถยนต์ ไฮโตรเจน และรถยนต์เอสเทอร์นัล ด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ยกเว้นวีซาให้นักธุรกิจญี่ปุ่น เข้าไทย เพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนในไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ยังได้นำเสนอแผนงานในโครงการ Landbridge ต่อนักธุรกิจญี่ปุ่นกว่า 30 บริษัท ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ย้ำว่า โครงการดังกล่าวเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุน ที่ต้องการขนส่งสินค้าในเส้นทางอาเซียน-ยุโรป และลดความแออัดการจราจรทางน้ำบริเวณช่องแคบมะละกา ลดค่าใช้จ่ายในการจอดรอเพื่อขนถ่ายสินค้า หากโครงการ Landbridge สำเร็จ ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง 35 เปอร์เซ็นต์ และล่นระยะเวลาการขนส่ง โดยตั้งเป้าโครงการแล้วเสร็จในปี 2040 คืนทุนได้ ภายใน 24 ปี
ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย สมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี แห่งญี่ปุ่น พระราชทาน พระราชวโรกาส ให้นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ที่พระราชวังอิมพิเรียล
เช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี ก็จะเดินทางไปเป็นประธานประชุม ครม. ในช่วงเวลา 10.00 น. ก่อนที่เวลา 12.00 น. ท่านนายกฯ จะขออนุญาตลาพักร้อน 3 วัน ไปดูแลคุณแม่ และไปเที่ยวกับครอบครัว
