แอมมี่ พร้อมมาฟังคำพิพากษา หมิ่นสถาบันฯ-วางเพลิงหน้าคุกคลองเปรม 26 มี.ค.นี้ ขณะที่ประเด็นดรามาโซเชียล เจ้าตัว ยกให้เป็นบทเรียน ต้องการแสดงความรับผิด ยันไม่มีผู้ใหญ่บังคับ
วันนี้ (15 ม.ค.67) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีที่ อ.1199/2564 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ฟ้องคดีของ นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธ์ หรือ “แอมมี่” นักร้องวง The Bottom Blues และ นายธนพัฒน์ กาเพ็ง เป็นจำเลย 1-2 ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์”, มาตรา 217 “วางเพลิงเผาทรัพย์” และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.64 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางเพลิง และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งได้ประดิษฐานติดตั้งบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมได้รับความเสียหาย นับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ต่อมาจำเลยได้นำภาพเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในบัญชีเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “The BOTTOM BLUES” ของจำเลย ซึ่งเป็นการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตที่เปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จึงเป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
โดยช่วงเช้าวันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 และ นายไชยอมร หรือ “แอมมี่” กับนายธนพัฒน์ จำเลยที่ 1-2 ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่มาติดตามให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
ภายหลังนายไชยอมร หรือ “แอมมี่” กับนายธนพัฒน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายธนพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยว่า การกระทำของเราขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ หลังจากนี้ศาลอาญาจะนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 26 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
“ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อให้ผิดหรือไม่ผิดต่อบทบัญญัติของตุลาการ แต่เรารู้ว่าเจตนารมณ์ที่ทำเพื่ออะไร ตอนนั้นเพื่อนของเรายังอยู่ในเรือนจำ สื่อถึงว่าความยุติธรรมที่เกิดขึ้น และที่เรากำลังตามหายังไม่ถึงจุดหมายสักที การมาฟังคำสั่งวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ทำให้พอจะเห็นแนวทางแล้วว่าคำพิพากษาจะเป็นอย่างไร ถือว่ามีระยะเวลาให้เตรียมตัวพอสมควร หวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะยุติธรรมจริงๆ สิทธิการประกันตัวเป็นของเราสองคน รวมถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ในเรือนจำด้วย ระหว่างนี้ศาลท่านให้เคลียร์เรื่องเรียนให้เรียบร้อย ตอนแรกจะนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 29 ก.พ.นี้ จึงขอเลื่อนไปฟังเดือนมี.ค.แทน” นายธนพัฒน์ ระบุ
เมื่อถามว่า ได้ประเมินผลคำพิพากษาคดีนี้จะออกมาเป็นอย่างไร นายไชยอมร กล่าวว่า ได้ปรึกษากับนักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม คดีนี้ตนคิดว่าเป็นคดีความทางการเมือง จึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เราทั้งสองคนก็พร้อมที่จะมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ 26 มี.ค.นี้
นายไชยอมร กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วเราเห็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาก่อนแล้ว จากที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ ส่วนกระบวนการในวันนี้ศาลได้อ่านและอธิบายคำสั่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ฟัง โดยที่เราไม่ต้องชี้แจงอะไร ซึ่งระหว่างนี้ตนได้วางแผนจัดการเรื่องที่เราจะต้องส่งต่อ ทั้งร้านอาหาร เรื่องเพลงที่มีสัญญาข้อตกลงกับค่ายเพลงว่าจะต้องทำให้ทั้งหมด 15 เพลง โดยร้องและเขียนเพลง ซึ่งเพลงเขียนเสร็จแล้ว ก็ยื่นส่งให้โปรดิวเซอร์ทำต่อ เพราะว่าตามสัญญาจะต้องร้องอย่างน้อยเดือนละ 1 เพลง ตอนนี้ก็ด้วยปัญหาเรื่องส่วนตัวที่เข้ามา จึงได้ขยับเวลาการทำงานเรื่องเพลงออกไป นอกจากนี้ ก็มีวางแผนเรื่องค่าเทอมของน้อง “ลัลลาเบล”
เมื่อถามถึง เหตุการณ์ล่าสุดที่เป็นกระแสดรามาทางโซเชียล กับลูกสาวนักร้องชื่อนั้น จะดำเนินไปอย่างไร นายไชยอมร กล่าวว่า คิดว่าเป็นบทเรียน แต่ว่าอย่างน้อยก็ได้เห็นคนข้างๆ ว่า มีใครอยู่ข้างๆ ซับพอร์ตเรายังไง แต่ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบให้ชัดเจนและตรงไปตรงมาให้มากขึ้น ซึ่งที่ออกมาโพสต์แสดงความรับผิดชอบนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีใครขู่เข็ญ บังคับอะไร แต่เป็นเรื่องที่เราอยากแสดงความจริงใจ อยากจะเข้าไปพบขอขมาผู้ใหญ่ คิดว่าเราได้ขอโอกาสเข้าไปเจอเป็นการส่วนตัวแล้ว ส่วนประเด็นข้อความที่โพสต์เขียนนั้น ข้อความอาจจะดูประดิษฐ์ประดอย แต่จริงๆ มันเป็นภาษาตน ยอมรับตรงๆ ว่าเพื่อนๆ ก็ไม่อยากให้จับโทรศัพท์ เพราะไม่อยากให้โพสต์อะไรตามอารมณ์ ชัดเจนว่าที่โพสต์เป็นภาษาของตน ถ้าไม่ได้สื่อสารกับเขาโดยตรง ถ้าจะสื่อสารผ่านสื่อที่เป็นตัวกลาง ก็อยากให้คนอ่าน คือตัวเขาจะรู้ว่าตนเขียนเอง
สำหรับประเด็นการติดต่อประสานงานกับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงนั้น นายไชยอมร หรือ แอมมี่ ไม่ขอตอบ แต่จะขอให้เป็นเรื่องราวที่จะดำเนินการหลังจากนี้
