5 โจ๋คดีป้าบัวผัน แก๊งลูก ตร. สลด-ร้องไห้ คาดอีก 2-3 วัน ให้ผู้ปกครองเยี่ยมญาติผ่านช่องทางออนไลน์ สั่งสืบเสาะพฤติกรรมทุกแง่มุมเสนอศาล ยังไม่มีพ่อแม่มายื่นประกัน สถานพินิจฯ เตรียมให้ลงทะเบียนเรียน กศน.
วันนี้ (21 ม.ค.67) นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยถึงการรับตัวเยาวชน 5 คน ร่วมกันฆ่าป้าบัวผันและซ่อนเร้นอำพรางศพ ว่า ตนได้กำชับไปยัง ผอ.สถานพินิจฯ จังหวัดระยอง และ ผอ.สถานพินิจฯ จังหวัดจันทบุรี ให้รายงานทุก 16.00 น. ขณะนี้เยาวชนยังอยู่ในห้องแยกกักตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เด็กมีความเครียด กังวล สลดและร้องไห้ เมื่อมีนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยจึงผ่อนคลายลง คาดว่าอีก 2-3 วัน จะให้ผู้ปกครองเยี่ยมญาติผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ปกครองคนใดขอยื่นประกันตัว จึงได้สั่งการให้สถานพินิจฯ ทั้ง 2 จังหวัด เตรียมลงทะเบียนเรียนกับ กศน. ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากทั้ง 5 คน หลุดออกจากระบบการศึกษา บางคนรอเข้าเรียนที่ใหม่ปีหน้า
นายโกมล กล่าวถึงขั้นตอนการสืบเสาะและวิเคราะห์ประวัติของเด็กที่กระทำผิดเพื่อรายงานศาล ว่า ข้อมูลที่สืบเสาะจะเริ่มต้นจาก 1 .ประวัติครอบครัว ครอบครัวแตกแยกหรือไม่ เด็กอาศัยอยู่กับใคร ใครเป็นผู้เลี้ยงดู 2. การศึกษาของเด็ก เรียรที่ไหน ผลการเรียนเป็นอย่างไร เคยมีประวัติถูกว่ากล่าวตักเตือนอย่างไร สาเหตุที่ไม่เคยถูกเนินคดีเพราะอะไร 3.พฤติกรรมส่วนตัวของเด็ก พฤติกรรมก้าวร้าว รังแกคนอื่น เป็นเด็กแว้น เที่ยวเตร่นอกบ้านในยามวิกาลหรือไม่ 4.พฤติการณ์แห่งคดี ในส่วนที่เป็นข้อมูลจากเด็กและพยานแวดล้อม 5.การประเมินสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็ก ซึ่วคดีป้าบัวผัน ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมรุนแรง จึงมีแนวทางให้ประชุมกรรมการจากสหวิชาชีพ เพื่อให้มีความเห็นร่วมด้วย ว่าควรมีวิธีจัดการอย่างไร
ส่วนความเห็นที่เสนอให้แก้กฎหมายเพื่อลงโทษสถานหนักกับเยาวชนที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์นั้น รองอธิบดีกรมพินิจฯ บอกว่า หากเยาวชนถูกตัดสินให้ส่งตัวเข้าศูนย์ฝึกฯ สามารถคุมตัวได้ถึงอายุ 24 ปี หากระยะเวลาที่ศาลสั่งเข้าศูนย์ฝึกยังเหลืออยู่ โดยที่พฤติกรรมของเยาวชนไม่ดีขึ้น สามารถขอเปลี่ยนโทษเป็นจำคุกแล้วส่งตัวเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษต่อได้