ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกไฟไหม้จนเสียชีวิตทั้ง 3 คน หลังพบว่า ทั้ง 3 คนเป็นเด็กกำพร้า มียายคอยเลี้ยงดู
วันนี้ ( 24 ม.ค.67) ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 47/ 1 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นบ้าน ไม้สองชั้น และมีกลุ่มเยาวชน ชาย รวม 7 คน ที่อาศัยนอนในบ้านหลังดังกล่าว หนีตายจากกองเพลิง มาได้ 4 คน ส่วนที่เหลือ อีก 3 คน กำลังนอนหนีไฟไหม้ไม่ทันถูกไฟไหม้เสียชีวิต โดยผู้รอดชีวิต เป็นเด็กชาย อายุ 14 ปี 1 คน ,นายกิตติพงศ์ อายุ 19 ปี ,นายหัสดิน อายุ 20 ปี และเยาวชนชาย อายุ 15 ปี ส่วนผู้เสียชีวิต คือ นายณัฐวัฒน์ อายุ 20 ปี เกชายอายุ 11 ขวบ และนายอนุวัตน์ อายุ 18 ปี โดยทั้ง 3 คนที่เสียชีวิต เป็นญาติกัน และพ่อแม่ทั้งหมดเสียชีวิตทำให้กลายเป็นเด็กกำพร้า มีนางสุภาภรณ์ อายุ 74 ปี ผู้เป็นยายคอยเลี้ยงดู
สอบถามผู้เป็นยาย เปิดเผยว่า ตัวเองเลี้ยงหลานมากับมือตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อแม่เสียชีวิต บางคนพ่อ แม่ แยกทางกัน ทำให้เป็นเด็กกำพร้า ตนจึงเลี้ยงเด็กทั้ง 3 คนมาตั้งแต่เล็ก ๆ การสูญเสียในครั้งนี้เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ โดยเฉพาะนายณัฐวัฒน์ หรือบอย ตั้งใจว่าอยากเป็นทหารและไปสมัครเป็นทหารเกณท์ และจะไปค่ายทหารในอีก3 เดือนข้างหน้า
ด้านนายประดิษฐ์ งามขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เปิดเผยว่า เด็ก ๆ เหล่านี้เมื่อคืนได้ไปเที่ยวงานที่วัดท่าหลวง และกลุ่มผู้รอดชีวิต 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกันเมื่อไปเที่ยวกลับมานอนกับกลุ่มผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นเด็กกิจกรรมชอบเล่นกีฬา
ล่าสุดนายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้กำลังใจ และมอบเงิน พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยทางจังหวัดจะเร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนระยะยาวจะมีงบประมาณกลาง ที่จะมาช่วยซ่อมแซมบ้านให้กลับมาเป็นบ้านอีกครั้ง จึงฝากเตือนประชาชน ให้หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงอากาศแห้ง ทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย
ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรพิจิตร ได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเกิดจากการจุดยากันยุงตามที่ผู้รอดชีวิตบอกเล่า
