ชายวัย 24 ปี ป่วยจิตเวช ยืนจ้องหญิงสาว ก่อนเดินตามขึ้นรถทัวร์ไปนั่งข้างๆ และนั่งจ้องหน้าตลอดเวลา สาวอึดอัด ตัดสินใจลงจากรถทัวร์ก่อนถึงปลายทาง แต่ชายป่วยจิตเวช ตามมาผลักและแทงซ้ำ
จากกรณีเมื่อเวลา 21.15 น. วันที่ 6 ก.พ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.พล ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกมิตรภาพ อ.พล จ.ขอนแก่น เข้าควบคุมตัว นายสหัสวรรษ อายุ 24 ปี ชาว จ.มหาสารคาม พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 20 ซม. หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดดังกล่าวทำร้าย นางสาว นิตยา อายุ 31 ปี ชาว ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บที่แขนสองข้าง ก่อนจะประสานแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลพล ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุซึ่งขณะจับกุมพลว่ามีลักษณะคล้ายคนมีอาการหลอนจากสารเสพติด จึงควบคุมตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลและทำการรักษาประเมินอาการทางจิตอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลพล
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 7 กุมภาพันธุ์ 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ 4 แยกไฟแดง ถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองขอนแก่น ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล จ.ขอนแก่น ซึ่งมีศาลารอรถตั้งอยู่บริเวณ 4 แยก และเป็นจุดที่รถทัวร์คันดังกล่าวมาจอดส่งผู้โดยสารลง โดยพบว่ามีรอยเลือดหยดเป็นทางยาว 2 จุด และพบกองเลือดขนาดใหญ่บนฟุตบาธริมถนน มีรอยเลือดหยดเป็นทางยาวฃลงถนน และพบเสื้อผ้าของผู้ก่อเหตุอยู่ริมถนน
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายทองใบ อายุ 67 ปี วินจักรยานยนต์ประจำจุดศาลารอรถตรงที่เกิดเหตุ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติตนเองก็จะอยู่จุดนี้ทุกวัน แต่ช่วงเกิดเหตุนั้นตนเองไม่อยู่จะมี วินจักรยานยนต์อื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์โดยโทรมาบอกเล่าให้ตนเองฟัง ว่าเกิดเหตุคนแทงกันตอนประมาณสามทุ่ม ช่วงที่รถทัวร์สายโคราช-อุบลราชธานี มาจอดส่งผู้โดยสารที่จุดนี้ตามปกติ ก็จะมีผู้โดยสารลงจากรถเป็นจำนวนมากและหญิงที่ถูกทำร้ายก็ลงจากรถด้วยเช่นกัน คาดว่าจะกลัวความไม่ปลอดภัย เนื่องจากทุกคนบนรถลงจนเกือบหมด พอลงมาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเป็นฝ่ายชาย ไล่ทำร้ายฝ่ายหญิงทั้งเตะทั้งตี ก่อนจะใช้มีดไล่แทง จนได้รับบาดเจ็บ แล้วชายดังกล่าวก็วิ่งหลบหนีไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งช่วงแรกทุกคนคิดว่าเป็นผัวเมียทะเลาะกัน จึงยังไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดี ที่อยู่บริเวณนั้นช่วยกันสกัดจับควบคุมตัวเอาไว้ได้ ช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่มีใครทราบว่า ชายดังกล่าวก่อเหตุทำไม แต่คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากยาเสพติด
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล ได้เดินทางไปที่หอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง รพ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อนเยี่ยมและดูอาการของนางสาว นิตยา ผู้บาดเจ็บ โดยนางสาว นิตยา สามารถให้การได้ ว่า มีสามีเป็นชาวต่างชาติ เมื่อสามีเดินทางกลับแล้ว จึงได้เดินทางด้วยรถโดยสาร เพื่อจะไปพักผ่อนกับพ่อแม่ ที่อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยขึ้นรถโดยสารที่ บขส.นครราชสีมา
ขณะกำลังเก็บกระเป๋าที่ใต้ท้องรถก็มีนายสหัสวรรษ ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน ยืนจ้องพร้อมกับถามว่าจะไปลงที่ไหน จึงตอบว่า ลงบรบือ จากนั้นจึงเดินไปเข้าห้องน้ำและก็เดินขึ้นไปนั่งบนรถ พบว่าเบาะที่ 5และ 6 ว่าง จึงเข้าไปนั่งที่เบาะชิดด้านในคือเบาะที่ 5 จากนั้นนายสหัสวรรษ ก็มานั่งคู่ และจ้องอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกกดดันและอึดอักเป็นอย่างมาก จึงทนนั่งไม่ได้และลุกออกมายืน พนักงานประจำรถจึงถามขึ้นมาว่า มีใครจะลงที่อ.พลบ้าง จึงตอบว่า ลง เมื่อรถทัวร์โดยสาร จอดที่ริมถนนมิตรภาพ ใกล้ศาลาที่พักผู้โดยสาร จึงลงจากรถพร้อมผู้โดยสารรายอื่นๆอีกหลายคน ขณะกำลังก้มเอากระเป๋าใต้ท้องรถนายสหัสวรรษ ก็มีถีบจนล้มลง จากนั้นก็เข้ามาแทงหลายครั้ง จึงต่อสู้ พร้อมกับมีผู้โดยสารและพนักงานประจำรถมาช่วย นายนายสหัสวรรษ จึงวิ่งหนี
นางสาว นิตยา กล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัว เคยมีความวิตกกังวลว่าเดินทางคนเดียวจะไม่ปลอดภัย จนมาเกิดเหตุขึ้นจริงกับตัวเอง จึงคิดว่าคนที่เดินทางคนเดียวควรตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วว่า เบาะข้างที่นั่งเรา คนที่นั่งด้วยเป็นชายหรือหญิง เพื่อจะเลือกที่นั่งได้ อาจจะเกิดความปลอดภัยกว่าที่ไม่รู้ และขอฝากถึงนายสหัสวรรษ ว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีกเลย เกิดเหตุขึ้นมามีคนเจ็บแล้วมันแก้ไขยาก ส่วนตัวเองเมื่อบาดเจ็บแล้วก็คงให้อภัย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะคนแบบนี้ปล่อยไปก็เป็นอันตรายกับบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะบาดเจ็บตายก็ได้ ส่วนบาดแผลที่แขนทั้งสองข้างนั้น แขนข้างซายเย็บ 6 เข้ม แขนข้างขวาเย็บ 10 เข็ม
ทางด้าน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล กล่าวว่า เดินทางมาที่รพ.พล เพื่อเยี่ยม และสอบสวนคนเจ็บและดูอาการของนายสหัสวรรษ ผู้ต้องหา ซึ่งก็พบว่าคนเจ็บนั้นมีอาการปลอดภัยแล้ว และสามารถให้การได้แล้ว โดยยืนยันว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายนายสหัสวรรษ ในส่วนของนายสหัสวรรษ นั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าพบนั้น นอนหลับอยู่จึงยังไม่ได้สอบสวน ซึ่งจากการสอบถามจากแพทย์รพ.พล ทราบว่า ได้ติดต่อกับมารดาของนายสหัสวรรษแล้ว ทราบว่า เป็นผู้ป่วยจิตเวช เมื่อเดือนมกราคม 2566 มารดาพาเข้ารักษาตัวที่รพ.จิตเวชขอนแก่น แพทย์ทำการรักษาให้และให้ยาไปรับประทานที่บ้านและแพทย์ก็นัดพบ เพื่อรักษาตัวต่อเนื่อง แต่นายสหัสวรรษ ไม่กินยาและไม่ไปรักษาตามหมอนัด และอยู่ที่บ้านเรื่อยมา จากนั้นก็บอกกับมารดาว่า จะเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
ซึ่งเมื่อแพทย์รพ.พล ตรวจอาการในเบื้องไม่พบสารเสพติด จึงคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากภาวะทางอารมย์และทางจิต หลังจากนายสหัสวรรษตื่น แพทย์รพ.พล ก็จะส่งตัวนายสหัสวรรษ ไปรักษาต่อที่ รพ.จิตเวชขอนแก่น ในส่วนของคดีที่ใช้มีดแทงนางสาว นิตยา หากนายสหัสวรรษ ให้ปากคำได้ ก็จะสอบสวนและแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป