อิสราเอลโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ 2 คน ทางการอิสราเอลเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ร่วมกับ "ชินเบต" (Shin Bet) หน่วยรักษาความมั่นคงภายในของอิสราเอล และเจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอล เข้าปฏิบัติการในเมืองราฟาห์ (Rafah) ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และสามารถช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอลได้ 2 คน คือ นายเฟอร์นันโด ไซมอน มาร์แมน (Fernando Simon Marman) อายุ 60 ปี และนายลูอิส ฮาร์ (Louis Har) อายุ 70 ปี ที่ถูกกลุ่มฮามาส ลักพาตัวไปจากบริเวณชุมชนเกษตรกรรม "เนียร์ ยิตซัก" (Kibbutz Nir Yitzhak) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้งคู่มีสุขภาพดี และถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว
โฆษกกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวมีความซับซ้อน ซึ่งอิสราเอลได้เตรียมการสำหรับปฏิบัติการนี้มาเป็นเวลานาน และรอเงื่อนไขที่เหมาะสม ซึ่งตัวประกันถูกควบคุมตัวอยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคารหลังหนึ่ง ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดระหว่างการจู่โจม อีกทั้งยังมีการยิงปะทะกันอย่างหนักในบริเวณอาคารโดยรอบด้วย ขณะที่ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองราฟาห์ ที่มีเวลาประจวบเหมาะกันพอดี ทำให้ทีมปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลสามารถถอนกำลังออกมาได้
ขณะเดียวกัน ทางการในฉนวนกาซารายงานว่า อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศอย่างหนักในเมืองราฟาห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน อีกทั้งชาวปาเลสไตน์จำนวนมากกำลังหวาดกลัวว่าอิสราเอลจะเริ่มปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ด้วย
ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ว่าอิสราเอลไม่ควรเปิดปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ หากไม่มีแผนงานที่เชื่อถือได้ว่า จะรับประกันความปลอดภัยของพลเรือนราว 1 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในค่ายลี้ภัยในเมืองราฟาห์แห่งนี้
