กรมคุกแจงยิบ ขั้นตอนปล่อยตัวพักโทษ “ทักษิณ” ยันทำตามระเบียบ

กรมคุกแจงยิบ ขั้นตอนปล่อยตัวพักโทษ “ทักษิณ” ยันทำตามระเบียบ

View icon 163
วันที่ 18 ก.พ. 2567 | 18.57 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ราชทัณฑ์ แจงยิบปล่อยตัวพักโทษ “ทักษิณ” ยันทำตามระเบียบ เผย เดือนเดียวมีผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์พักโทษ 930 คน เป็นพักโทษกรณีปกติ 913 คน พักโทษกรณีมีเหตุพิเศษ 8 คน และพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ตามโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม” 9 คน

วันนี้ (18 ก.พ.67) กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารแถลงกรณี การปล่อยตัวพักการลงโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัวนายทักษิณ เข้ามาควบคุมที่เรือนจำตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.66 ตามที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 3 คดี รวมกำหนดโทษ 8 ปี ต่อมานายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี และนับตั้งแต่นายทักษิณรับโทษจำคุก จนกระทั่งถึงปัจจุบันวันที่ 17 ก.พ.67 เป็นระยะเวลารวม 6 เดือน ซึ่งตามแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับการพักการลงโทษ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจะตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของนักโทษเด็ดขาด ที่เข้าเกณฑ์เพื่อดำเนินการขอพักการลงโทษ

โดยกรณีของนายทักษิณจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป มีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไปครบตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28 ต.ค.63 คือ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

การพิจารณาการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษดังกล่าวนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ โดยมีขั้นตอนการพิจารณา ดังนี้ 1. เรือนจำ/ทัณฑสถาน ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนักโทษเด็ดขาดที่เข้าตามหลักเกณฑ์ พร้อมประสานขอความร่วมมือกับสำนักงานคุมประพฤติในเขตพื้นที่ของผู้อุปการะ ดำเนินการสืบเสาะข้อเท็จจริงของนักโทษเด็ดขาด จากนั้นจะรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ โดยมีผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนคุมประพฤติ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ จากนั้นเสนอบัญชีรายชื่อไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ

2. กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบเอกสารข้อมูลของนักโทษเด็ดขาดที่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้มีความครบถ้วนถูกต้อง เพื่อเสนอในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ซึ่งโดยปกติจะมีการพิจารณาเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอบัญชีรายชื่อผู้ที่คณะอนุกรรมการฯ มีมติปล่อยตัว ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาอนุมัติการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ

3. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาอนุมัติแล้ว  กระทรวงยุติธรรมจะส่งหนังสือกลับมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ให้กับเรือนจำ/ทัณฑสถาน ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการฯ ให้พักการลงโทษ โดยต้องมีเอกสารแจ้งให้ผู้ได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ  ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติและปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติต่อไป

ทั้งนี้ ในเดือนม.ค.67 มีผู้ต้องขังทั่วประเทศอยู่ในหลักเกณฑ์เข้ารับการพิจารณาพักการลงโทษและได้รับอนุมัติให้ปล่อยตัวพักการลงโทษ ทั้งสิ้นจำนวน 930 ราย แบ่งเป็น การพักการลงโทษกรณีปกติ จำนวน 913 ราย การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จำนวน 8 ราย และการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ โครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม” จำนวน 9 ราย กรมราชทัณฑ์ จึงขอชี้แจงรายละเอียดการดำเนินงานในกรณีการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษของนายทักษิณ ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มาเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่สาธารณชนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง