สนามข่าว 7 สี - ส่วนเรื่องเสื่อมวงการผ้าเหลืองในบ้านเรา เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ตำรวจคุมตัวอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดัง และพวก ที่ร่วมกันยักยอกเงินวัด กว่า 200 ล้านบาท ไปฝากขัง ขณะที่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ จนถึงตอนนี้ยังคงปฏิเสธ
เรื่องนี้ยังต้องตามกันต่อยาว ๆ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ กรณีที่ตำรวจ บก.ปปป. ไปจับกุมผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม อายุ 47 ปี ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังพบว่ามีการยักยอกเงินของวัดไป กว่า 200 ล้านบาท ในระยะเวลาประมาณ 5 ปี และจับกุมพ่อค้าในวัดอีก 1 คน ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เบิกตัวอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ และพ่อค้าที่ร่วมก่อเหตุ ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ฝากขัง พร้อมคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก หากปล่อยตัวชั่วคราวออกไป เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ทั้งนี้พบว่า ขณะ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ออกมา ได้สวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขายาว โดยมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะถูกคุมตัวขึ้นรถไป
ต้องบอกว่า ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุมในครั้งนี้ ทางวัดฯ ได้ตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีของวัด สูญหายไประหว่างปี 2561-2566 โดยมีพฤติการณ์ยักยอกเงินของวัดจำนวนกว่า 200 ล้านบาท ไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัว โดยทำมาตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นมา ทุกครั้งที่มีการยักยอกเงินวัด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ มักจะนำเช็คเงินสดไปให้เจ้าอาวาสเซ็นอนุมัติ จากนั้นก็จะนำเช็กใบดังกล่าวมาแก้ไขตัวเลข เพื่อเพิ่มยอดเงินให้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งนำเช็กเปล่าไปให้เจ้าอาวาสเซ็น โดยที่เจ้าอาวาสไม่รู้เรื่อง ก่อนจะนำเช็กใบดังกล่าวไปให้พ่อค้า นำไปเบิกเงินออกมา เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ในส่วนของพ่อค้าที่เป็นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพแล้วว่า ร่วมกันกระทำผิดจริง โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำเช็กที่ได้มาไปขึ้นเงินสด ก่อนนำเงินสดทั้งหมดมามอบให้กับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ ตามคำสั่ง
ตำรวจคุมตัวอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐ์ฯ และพวกอีก 1 คน ส่งฝากขังต่อศาลอาญา โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตฝากขังได้ เมื่อครบเวลาทำการ ปรากฏไม่มีญาติผู้ต้องหามายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่นำตัว 2 ผู้ต้องหาไปควบคุมยังเรือนจำ
