ตำรวจสอบสวนกลาง จับขบวนการลักขโมยรางรถไฟ ได้ค่าจ้าง 1,000-2,000 บาท คนขับรถที่รับว่างจ้าง ชวนเด็ก 15 มานั่งโดยสารเป็นเพื่อนคุย ถูกจับดำเนินคดีด้วย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันจับกุม นายปรีชาฯ อายุ 42 ปี นายเนติพงษ์ฯ อายุ 28 ปี และ เยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการ พาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณ ทล.๔ (ถ.เพชรเกษม) กม.343 ขาล่องใต้ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นรถบรรทุก และเหล็กเส้นรางรถไฟที่ถูกตัดแล้วจำนวน 261 เส้นในสวนมะพร้าวในพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการออกกวดขันวินัยจราจรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับการประสานจากพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ตรวจสอบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สงสัยว่า บรรทุกเหล็กเส้น (รางรถไฟ) ของการรถไฟ ซึ่งได้มีการร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางสะพาน ให้ติดตามตัวผู้ต้องหาลักทรัพย์เหล็กเส้น (รางรถไฟ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้รถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบนายปรีชา ผู้ขับขี่ นายเนติพงษ์ และ นายภานุศักดิ์ ผู้โดยสาร
จากการตรวจสอบพบเหล็กเส้น (รางรถไฟ) อยู่ท้ายรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าว ซึ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯ ได้ยืนยันว่าเป็นเหล็กเส้น (รางรถไฟ) ของการรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมด้วยของกลางทั้งหมดนำสั่งพนักงานสอบสวน สภ.ธงชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนายภานุศักดิ์ฯ ซึ่งเป็นเยาวชนได้แยกบันทึกจับกุมไว้แล้ว
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายปรีชา ได้ให้การว่า นายจ้างได้ให้ขับรถยนต์ไปรับงานบรรทุก โดยให้ประสานงานกับนายเนติพงษ์ ผู้ต้องหาจึงได้ให้ นายภานุศักดิ์ นั่งโดยสารมาเป็นเพื่อนคุย เพื่อนำเหล็กเส้นขึ้นรถยนต์บรรทุกที่บริเวณรางรถไฟหมู่บ้านโคกตาหอม
สอบถามนายเนติพงษ์ ได้ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก นายวัตร โดยมีค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 1,000-2,000 บาท ให้ไปกับรถยนต์บรรทุกเพื่อบอกทางไปบรรทุกเหล็กเส้นที่ริมทางรางรถไฟหมู่บ้านโคกตาหอม โดย นายวัตร ได้ว่าจ้างรถยนต์บรรทุกให้แล้วและได้ให้ประสานกับ นายปรีชา ผู้ขับรถ
ทั้งนี้นายเนติพงษ์ ยังให้การอีกว่า ตนเองได้นำรถยนต์บรรทุกมาบรรทุกเหล็กเส้น (รางรถไฟ) ที่บริเวณดังกล่าวไปแล้ว 1 ครั้ง โดยได้นำไปส่งให้ที่อู่แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนนายภานุศักดิ์ ได้ให้การว่า นายปรีชา ได้ให้ตนเองนั่งโดยสารมากับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวเพื่อเป็นเพื่อนคุย จึงได้โดยสารรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวมา