พนันออนไลน์ข้ามชาติท่าขี้เหล็ก เจอตำรวจไซเบอร์ร่วมเมียนมาบุกจับ 154 คน

พนันออนไลน์ข้ามชาติท่าขี้เหล็ก เจอตำรวจไซเบอร์ร่วมเมียนมาบุกจับ 154 คน

View icon 230
วันที่ 27 มี.ค. 2567 | 17.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์ ร่วมทางการเมียนมา บุกทลายฐานที่มั่นเครือข่ายพนันออนไลน์-คอลเซนเตอร์ท่าขี้เหล็ก ติดชายแดนแม่สาย รวบคนไทย 154 คน

พนันออนไลน์ วันนี้(27 มี.ค.2567) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ข้ามชาติในเมียนมา

โดยปฏิบัติการครั้งนี้ มีความร่วมมือจากเมียนมา ขยายผลข้ามแดนเก็บรวบรวมและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน 154 คนไทย เครือข่ายการพนันออนไลน์ ณ จ.ท่าขี้เหล็ก จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2567 ทหารร่วมกับตำรวจเมียนมา เข้าปราบปรามบ่อนพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซนเตอร์ จ.ท่าขี้เหล็ก พื้นที่ติดต่อ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับผู้ต้องหาชาวไทย 154 ราย (ชาย 78 หญิง 76) ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่จากไทย ขยายผลลงพื้นที่เมื่องันที่ 21-23 มีนาคม 2567 พื้นที่ จ.เชียงราย ต่อเนื่อง จ.ท่าขี้เหล็ก เข้าตรวจสอบอาคาร 3 หลัง ดัดแปลงเป็นสำนักงานชักชวนเล่นพนันออนไลน์ และห้องพักรับรองจำนวน 50 ห้อง พบคอมพิวเตอร์กว่า 400 เครื่อง พร้อมระบบเชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์

เมื่อสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 154 ราย ให้การว่า ทำหน้าที่เป็นแอดมอนชักชวนคนไทยให้เล่นพนันออนไลน์ แนะนำให้สมัครสมาชิกและช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักพนัน นำเว็บไซต์ไปดัดแปลงตามแอปพลิเคชันต่าง ๆ และโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก

ปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถตรวจยึดพยานหลักฐานดิจิทัล แบ่งเป็น
โทรศัพท์ 316 เครื่อง
หมายเลขโทรศัพท์ 83 หมายเลข จากผู้ให้บริการในไทย 45 หมายเลข และผู้ให้บริการในเมียนมา 38 หมายเลข
บัญชีธนาคาร 15 บัญชี เป็นของไทย 7 บัญชี และเมียนมา 8 บัญชี
คอมพิวเตอร์ 31 เครื่อง ประวัติเว็บไซต์ 15 แห่ง โปรแกมสมัครเฟซบุ๊กอัตโนมัติ หลักฐานค่าใช้จ่ายของเว็บพนันออนไลน์ ใบเสร็จการโอนเงิน เว็บไซต์เกี่ยวกับการพนันอีก 23 แห่ง

เบื้องต้น เมียนมาจะดำเนินคดีคนกลุ่มนี้ในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนันออนไลน์ หลังรับโทษแล้วจะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ซึ่งเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการพนัน อั้งยี่ ฟอกเงิน และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อเอาผิดผู้รับผลประโยชน์ต่อไป