ทนายตั้ม ยืนยันแจ้งจับ บิ๊กต่อ-ภรรยา พรุ่งนี้ ข้อหาร่วมกัน ฟอกเงิน

View icon 17
วันที่ 31 มี.ค. 2567 | 15.53 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ทนายตั้ม เข้าให้ปากคำกับตำรวจ บก.ปปป. และมอบหลักฐานเพิ่มเติมคดีขบวนการรับส่วยเว็บพนันออนไลน์ เชื่อมโยงบิ๊กตำรวจ พร้อมยืนยันแม้ "บิ๊กต่อ" จะถอนฟ้องแล้ว แต่กำหนดการแจ้งความเอาผิด "บิ๊กต่อ" ภรรยา และบัญชีม้า ฐานสมคบกันฟอกเงินยังเหมือนเดิม

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ในคดีที่มีการแฉเครือข่ายการเรียกเก็บส่วยที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายตำรวจระดับบิ๊ก หลังเคยมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้

โดย ทนายษิทรา บอกว่า วันนี้จะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมด และจะระบุชื่อบุคคลให้ชัดเจนว่าเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง เกี่ยวข้องกับตำรวจนายใดบ้าง ตั้งแต่ระดับชั้นประทวนไปจนถึงระดับพลตำรวจเอกทั้งหมด พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีก 9 แผ่น รวมของเดิมเป็น 175 แผ่น

ส่วนกรณีที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ "บิ๊กต่อ" ให้ทนายถอนฟ้องตนเองแล้วนั้น ตนเองคิดว่าอาจเพราะเมื่อวานที่ไปทำบุญที่วัดนครอินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี แล้วตนเองพูดว่าเดี๋ยวจะไปขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารและรายการเดินบัญชีต่าง ๆ อีกฝ่ายคงกังวล จึงถอนฟ้อง เพื่อไม่ให้ตนเองใช้อำนาจศาลในการเรียกเอกสารเหล่านี้ แต่ก็ไม่กังวล เพราะยังไงตนเองได้แจ้งตำรวจ บก.ปปป. ไปแล้วว่าให้เรียกดูเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด และยืนยันวันพรุ่งนี้ วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 ตนเองก็ยังจะไปแจ้งความ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ภรรยา และเจ้าของบัญชีม้าอีก 2 บัญชี ในข้อหาสมคบ และร่วมกันฟอกเงิน ตามกำหนดการเดิม

ส่วนคลิปเสียงการเรียกรับเงินของตำรวจ บก.ปคม. และ ตำรวจคอมมานโด ที่ ทนายตั้ม นำมาเปิดเผย ทนายตั้ม ให้ข้อมูลเพิ่มว่า คลิปเสียงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2565 โดยเป็นการพูดคุยกันของทีมเก็บส่วย หรือ ทีมแม่บ้านของ บก.ปคม. และคอมมานโด ในการเก็บส่วยคาราโอเกะย่านลาดพร้าว ซึ่งปกติ บก.ปคม. เรียกเก็บส่วยอยู่แล้ว ร้านละ 1000 บาท แต่เกิดมีตั๋วเก็บเงินเพิ่มจากคอมมานโดมาอีกร้านละ 500 บาท รวมเป็นร้านละ 1500 บาท 3 ร้าน ก็ 4500 บาท