สนามข่าว 7 สี - มาตามต่อคดีที่ชายชาวอินเดีย ใช้มีดกระหน่ำแทงหญิงไทย 31 แผล ในโรงแรมย่านตลาดพลู หลังถูกจับเจ้าตัวปฏิเสธทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
คดีที่ นายยาเดฟ ชายชาวอินเดีย คนร้ายที่ใช้มีดแทง นางสาวสุกัญญา อายุ 51 ปี ตามลำตัว มีแผลรวมกันถึง 31 แผล เสียชีวิตอยู่ในห้องพักชั้น 2 หลังก่อเหตุเดินจากห้องพักชั้น 2 ผ่านหน้าล็อบบี้โรงแรมย่านตลาดพลู โดยทำทีเป็นเล่นโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะออกนอกโรงแรมไปอย่างใจเย็น
ขณะที่ นายโกมินทร์ ลูกชายผู้เสียชีวิต หลังจับผู้ก่อเหตุได้ก็เดินทางไป สน.ตลาดพลู เปิดเผยว่าต้องการที่จะเห็นหน้าผู้ต้องหา และอยากถามว่าทำไมถึงได้ก่อเหตุทำร้ายแม่ของตนเองได้อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบความสัมพันธ์ของแม่กับผู้ต้องหา ที่แม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งนี้อยากจะให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด
ช่วงเที่ยง ญาติผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระไปเชิญวิญญาณในห้องเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ไปรับร่างผู้เสียชีวิตก่อนนำร่างไปที่วัดสารอด ถนนสุขสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ มีการรดน้ำศพก่อนบรรจุร่างใส่ในโลงศพ
ญาติผู้เสียชีวิต บอกว่า อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับผลกรรมที่เขาได้ทำเอาไว้ ที่ผ่านมาทราบเรื่องที่ทำร้ายหลายครั้ง แต่ไม่รุนแรง ไม่คิดว่าจะทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต ขอให้กฎแห่งกรรมตามเขาให้ถึงที่สุด
อยากให้ตำรวจพาคนร้ายมาทำแผน และสิ่งสำคัญที่ตนไม่นึกถึงหัวอกพ่อแม่เพราะว่าตัวเขาเองลูกเมียเขาก็มี ทำไมถึงกล้าทำขนาดนี้ และเชื่อว่าที่บอกพูดไทยไม่ได้ ตนเชื่อว่าเสแสร้ง เพราะเคยพูดคุยตอบโต้ตอบกัน
ส่วนสามีของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มารู้อีกทีเหตุก็เกิดขึ้นไปแล้ว ส่วนในเรื่องของการดำเนินการต่าง ๆ ก็ต้องแล้วแต่ทางญาติของภรรยา ต้องแล้วแต่ทางพี่น้องเขา
ส่วนความคืบหน้าที่ สน.ตลาดพูล ล่ามภาษาอินเดีย รวมถึงทนายความของฝั่งผู้ต้องหา เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมสอบปากคำ ระหว่างที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามายังห้องสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือทำ รวมถึงมีอะไรอยากพูดหรือไม่ ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว
มีรายงานว่า ผู้ตายเคยยืมเงินผู้ต้องหาจำนวน 2 แสนบาท โดยผู้ต้องหาพยายามติดตามทวงถามเงินจำนวนดังกล่าวมาตลอด ส่วนในวันเกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องใดนั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นไปแล้ว ส่วนจะมีการเพิ่มข้อหาเป็นฆ่าผู้อื่นเจตนาหรือไม่ ต้องรอพิจารณาจากคำการสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง
