สภาทนายความ ช่วยประชาชน ดำเนินคดี ปมขนยายกากแคดเมียม

สภาทนายความ เสนอ 6 ข้อ ช่วยประชาชน ดำเนินคดีเอกชน-เจ้าหน้าที่รัฐ ปมได้รับผลกระทบขนย้ายกากแคดเมียม

วันนี้ (18 เม.ย.67) นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาทนายความ ร่วมแถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีได้รับผลกระทบจากการขุดและส่งต่อกากแร่แคดเมียม จากบ่อฝังกลบโรงงานถลุงแร่สังกะสีใน จ.ตาก ว่า สภาทนายความมีแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน 6 แนวทางคือ 1. ตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 2. เรียกร้องดำเนินคดีตามกฏหมายสิ่งแวดล้อมกับเจ้าของหรือผู้ครอบครอง 3. ดำเนินการเรียกร้องและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานที่อนุญาตให้ขนย้ายกากของเสีย 4.เรียกร้องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเลือดและปัสสาวะประชาชนโดยรอบพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รอบโรงงานที่ฝังกลบในจังหวัดตาก กรุงเทพฯ สมุทรสาคร และชลบุรีทั้ง 100 % ไม่ใช่แค่เฉพาะคนงานกลุ่มเสี่ยง โดยวันนี้จะทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ

5. เรียกร้องให้ผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษ เพื่อเป็นมาตรการให้ผู้ประกอบการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ และ 6.ให้โรงงานที่ได้รับใบอนุญาตประเภท 101 หรือโรงงานปรับคุณภาพของเสียรวม “Central Waste Treatment” ฝังกลบกากของเสียอันตรายเท่านั้น ที่สามารถทำลายหรือฝังกลบสารอันตรายได้ ซึ่งโรงงานในจังหวัดตากที่รัฐบาลเตรียมจะนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบในวันที่ 7 พ.ค.นั้น ไม่ได้ใบรับอนุญาตดังกล่าว จึงควรศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (EIA) ให้รอบด้านก่อน

ส่วนในด้านคดีอาญานั้น เบื้องต้นได้หารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า จะให้เป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี ในส่วนที่เป็นคดีสิ่งแวดล้อมหรือคดีทางปกครองทางสภาทนายความจะรับดำเนินการ  ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐหากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ขนย้ายโดยมิชอบถือเป็นการละเมิดทางปกครอง จะเข้าข่ายปล่อยปละละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยืนยันว่า กรณีนี้หากผลสอบข้อเท็จจริงพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบโดยตรง ไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการนำข้อมูลเท็จมาใช้ขออนุญาตเคลื่อนย้าย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานราชการที่ชัดเจน

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งมีโทษทางอาญา และประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานรัฐและเอกชนได้เช่นกัน พร้อมขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมฝังกลบกากแคดเมียมในจังหวัดตากอีก 5 หลุมว่า มีการดำเนินการอย่างใดหรือไม่ หลังจากที่ถูกลักลอบขุดขึ้นมาแล้ว 2 หลุมและส่งออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ

ส่วนการให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น เบื้องต้นมีประชาชนประสานมายังสภาทนายความแล้ว 1-2 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดตาก แต่บางส่วนยังเกรงกลัวอิทธิพลอยู่ ซึ่งสภาทนายความได้ประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ว่า หากมีประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายหรือด้านคดี สภาทนายความก็ยินดีให้การช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ์ของประชาชนด้วย และภายในสามวันนี้ทางสภาทนายความจะลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในการเรียกร้องสิทธิ์ต่าง ๆ ด้วย