อย่าเสี่ยง ปธ.กกต. ขู่ ฮั้วเลือกสว. โทษหนัก ตัดสิทธิทางการเมือง ทั้งจำ-ปรับ มอง การรณรงค์คณะก้าวหน้า ยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ชี้ ไม่มีเหตุเลื่อน
วันนี้ (19 เม.ย.67) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าระเบียบ และประกาศกกต. เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ส่วนใหญ่เสร็จไปแล้ว โดยมี 1 ฉบับที่ส่งไปแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนระเบียบเกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. ตั้งใจว่าจะส่งไปในวันที่ 23 เม.ย.นี้
ส่วนมาตรการป้องกันการฮั้วหรือบล็อกโหวต ถ้าไม่ฝ่าฝืนกฎหมายกันได้ก็อย่าฝ่าฝืนเลย ส่วนจะป้องกันอะไรบ้างนั้นตามกลไกกฎหมายคือการกำหนดค่ารับสมัครในระดับที่ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป ประการที่สองคือจัดให้มีการเลือกแบบไขว้กันจะทำให้เกิดความไม่แน่นอน จึงจะฮั้วกันยาก นอกจากนี้ กกต.ยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่เราตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เลือก สว.ด้วยเช่นกัน โดยหน้าที่หลักคือตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดให้มีการเลือกว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และตรวจสอบการกระทำใดที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย อีกทั้งมีชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยสอดส่องการฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมาสมัครเป็นผู้แทนประชาชนในจิตสำนึกก็พยายามอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม ให้เริ่มต้นจากการเป็นผู้สมัครที่ดีต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย
ส่วนกรณีคณะก้าวหน้ารณรงค์ให้ผู้สนใจมาลงสมัคร สว.นั้น ส่วนตัวเห็นว่าจากที่เป็นข่าวถือว่ายังไม่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งแคมเปญ 1 ครอบครัว 1 สว. ก็เป็นการรณรงค์ให้คนไปสมัคร หากมีคนตอบรับแคมเปญแล้วสมัครเข้ามาจำนวนมาก ไม่ว่าจะมากเท่าไหร่ กกต.ก็สามารถจัดการเลือก สว.ได้ ไม่มีปัญหา เบื้องต้นคาดการณ์ว่าผู้สมัครจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคน โดยรูปแบบบัตรเลือกตั้งก็เป็นไปตามข้อกฎหมายที่ประกาศไปแล้ว โดยการจัดพิมพ์จะจัดเป็น 2 รอบ รอบแรกจัดพิมพ์ในจำนวนที่คาดการณ์ไว้ แต่หากเกินจำนวนที่คาดการณ์ไว้ก็จะจัดพิมพ์อีกรอบ
เมื่อถามว่า หากมีการรับจ้างสมัครเข้าไปเลือกผู้สมัครสว.คนอื่น นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว ทาง กกต.ก็ได้หารือกัน ถ้าทำจริงก็ถือว่ามีความผิด มีโทษทั้งจำคุก ทั้งปรับ และตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ย้ำว่า การไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งกฎหมายออกแบบให้ป้องกันเรื่องนี้ได้ในระดับหนึ่ง กกต.ก็มีกลไกระดับหนึ่ง ถ้าตั้งใจจะฮั้วอย่ามั่นใจว่าจะรอด ไม่มีใครจับได้ เพราะสมัยนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และช่องทางการตรวจสอบก็เยอะ ดังนั้นอย่าเสี่ยง
เมื่อถามถึงกรณีมีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อคัดค้านการสมัครสว. จะเป็นการยื้อเวลาการทำหน้าที่ของ สว.ชุดปัจจุบันหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่คิดว่า จะเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เมื่อเราจัดการเลือกระดับประเทศเสร็จแล้ว กฎหมายก็ให้รอ 5 วัน เผื่อจะมีการยื่นร้องเรียน และถ้ามีการร้องเรียนก็ต้องร้องภายใน 3 วันหลังวันที่เลือก ซึ่งกกต.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 วัน ส่วน กกต.จะมีการสั่งให้เลือกในวันไหนนั้น กรณีที่มีการเลือกซ่อม โดยหลักก็ต้องทำให้เร็ว เพราะฉะนั้นจะไม่ทำอะไรที่เป็นการขวาง
“ณ เวลานี้ผมไม่คิดว่า จะมีการทำให้เลื่อน การเลื่อนต้องมีเหตุตามกฎหมาย และชัดเจน ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่อยากจะสันนิษฐานว่าเลื่อนออกไปเพราะเหตุนั้น เหตุนี้ หากมีพระราชกฤษฎีกา เราก็ต้องทำตามตารางของเรา เราไม่ได้คิดเป็นอื่น” นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อถามว่า หากมีการยื่นต่อศาล และศาลมีคำสั่งให้ชะลอไปก่อน นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นกระบวนการศาล ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร เพราะศาลมีกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาล หากมีการส่งเรื่องไปศาลก็ไม่ได้หมายความว่าจะกระทบต่อไทม์ไลน์ ส่วนกรณีนายธีระยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ทางผู้ตรวจฯ ก็จะมีกระบวนการการพิจารณาอยู่ว่า ควรส่ง หรือไม่ควรส่งเรื่อง
ทั้งนี้ ในวันนี้มีการอบรมชี้แจงกับผู้อำนวยการกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในกระบวนการเลือก และได้เน้นย้ำให้ทุกคนศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ละเอียดรอบคอบ พร้อมนำไปถ่ายทอดกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน เพื่อเตรียมเลือก สว.ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ โดยถึงขณะนี้ยังไม่มีปัญหาในการดำเนินการ
