ควบคุมได้แล้ว เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลาง

View icon 15
วันที่ 2 พ.ค. 2567 | 11.01 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ช่วงเย็นวานนี้ เกิดเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลาง ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นครั้งที่ 3 กลุ่มควันพิษฟุ้งกระจาย เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร ติดตามกับ คุณไพศาล รัตนบรรเทิง รายงานสดจากหน้าโกดัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังคงใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงโกดังที่ 4 และ 5 เนื่องจากยังคงมีกลุ่มควันสีขาวโพยพุ่งอยู่จากภายใน

ทีมข่าวได้คุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ล่าสุดยังไม่สามารถคุมเพลิงได้ 100% เพลิงยังคุกรุ่นอยู่ในโกดังที่ 4 และ 5 ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปใช้น้ำหรือโฟมดับได้ เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างโกดังอาจจะถล่มลงมา

ตอนนี้จึงมีการปรับแผนใช้โดรนบินสำรวจความร้อน เพื่อจับว่าจุดไหนยังมีไฟลุกอยู่ ก็จะใช้รถกระเช้าฉีดน้ำเข้าไปดับไฟ มั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ภายในวันนี้

กลุ่มควันภายในโรงงานมีเพียงเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ขณะนี้ไม่มีผลกระทบกับประชาชนบริเวณใกล้เคียง แต่จากที่ทีมข่าวเข้ามาในพื้นที่ พบว่า ยังคงมีกลิ่นเหม็นของสารเคมีอยู่ค่อนข้างมาก ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากยังมีความร้อน และไฟคุอยู่ในโกดัง ต้องรอให้เจ้าที่เคลียร์พื้นที่ให้ได้ 100% ก่อน

ซึ่งมีรายงานด้วยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ น่ามาจากการวางเพลิง เพราะก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ ก่อนจะเริ่มมีกลุ่มควันขึ้นมาในเวลาประมาณ 14.00 น.

ไล่เรียงเหตุการณ์อีกครั้ง ตั้งแต่ 18.15 น. ที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่โกดังโรงที่ 4 และ 5 ซึ่งใช้เก็บสารเคมีของกลางที่ยึดอายัดไว้ อยู่ระหว่างรอทำลาย จนกระทั่งช่วงเวลา 01.00 น. วันนี้ จึงสามารถคุมเพลิงได้ จากนั้นเวลา 04.00 น. เพลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และควบคุมเพลิงได้ เวลา 05.30 น.

เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เนื่องจากอยู่ใกล้หมู่บ้านและชุมชน ควันไฟจากการเผาไหม้สารเคมีกว่า 4,000 ตัน ลอยไปไกลถึงอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เวลา 22.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศให้โรงพยาบาลภาชีปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันสารเคมี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร อาจส่งผลกระทบกับผู้ป่วยได้ จึงเร่งอพยพผู้ป่วยจำนวน 37 คน ไปยังโรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย ที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด

รวมถึงตั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์อพยพ ที่วัดโคกม่วง ตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี เพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง