หนุ่มดับคาเก๋ง พบคอมีแผลเหวอะ ควันเต็มรถ ก่อนไฟลุกไหม้ ตรวจสอบหลังรถเจอเตาหมูกระทะ เผยตีสามไลน์สั่งเสียแม่ ห้ามบอกสาเหตุการตาย ตั้งใจจบชีวิตเอง
วันนี้ (5 พ.ค.67) เมื่อเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง รับแจ้งพบรถยนต์เก๋งจอดอยู่ริมถนน มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากภายในรถ เหตุเกิดบริเวณริมถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง ฝั่งตรงข้ามสุสานวังหีบ ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งสีเทาดำจอดอยู่ริมถนน มีกลุ่มควันลอยออกมาจากกระจกประตูฝั่งคนขับ เจ้าหน้าที่พยายามเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในรถ แต่ประตูถูกล็อกจากด้านใน จึงตัดสินใจใช้อุปกรณ์งัดประตูรถออก พบว่าภายในรถมีกลุ่มควันอยู่เป็นจำนวนมาก และยังพบร่างชายคนหนึ่งนอนอยู่ที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ ตรวจสอบไม่พบชีพจร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว โดยที่บริเวณลำคอของผู้เสียชีวิตมีบาดแผลขนาดใหญ่ คล้ายถูกของมีคมบาดมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างของชายคนดังกล่าวออกมาจากรถ ก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้จากเบาะด้านหลังรถและลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างอุตลุต ก่อนจะประสานรถดับเพลิงจาก อบต.เขาน้อย มาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถได้สำเร็จ
นายทศพร อายุ 39 ปี ซึ่งผ่านมาพบรถคันดังกล่าวและเป็นผู้แจ้งเหตุ ให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าตนขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีควันลอยออกมาจากรถเก๋งคันดังกล่าว จึงจอดรถลงไปดูและโทรแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธมาถึง และช่วยกันเปิดประตูรถ ก็พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในรถแล้ว จากนั้น ก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ทำให้ทุกคนต่างต้องรีบหนีเอาชีวิตรอด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ร่วมกันตรวจสอบภายในรถ พบว่าที่เบาะด้านหลังรถ มีเตาแก๊สหมูกระทะ เปิดแก๊สค้างเอาไว้อยู่ แต่ไม่พบจดหมายลาตายหรือเอกสารที่ระบุว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เมื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของชายวัย 35 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่จึงโทรศัพท์ติดต่อไปที่แม่ของเจ้าของรถ ทำให้ได้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสามวันนี้ ผู้เสียชีวิตได้ไลน์ข้อความสั่งเสียมาหาแม่ของตัวเอง โดยขอให้แม่ไม่ต้องส่งศพไปชันสูตรให้เสียเวลา เพราะตัวเองตั้งใจที่จะจบชีวิตตนเอง รวมถึงขอให้แม่ไม่เปิดเผยข้อมูลและสาเหตุการจบชีวิตตัวเองในครั้งนี้ให้กับสื่อมวลชนด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ได้ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง
