ตำรวจไซเบอร์ขยายผลจับแก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ใช้รูปสาวสวยตุ๋นนักธุรกิจ สูญเงินกว่า 300 ล้านบาท

ตำรวจไซเบอร์ขยายผลจับแก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ใช้รูปสาวสวยตุ๋นนักธุรกิจ สูญเงินกว่า 300 ล้านบาท

View icon 88
วันที่ 15 พ.ค. 2567 | 08.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (15 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลแก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล โดยใช้รูปโพรไฟล์สาวสวยตุ๋นนักธุรกิจสูญเงินกว่า 300 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน ก.ค. 66 ได้มีนักธุรกิจคนหนึ่งตกเป็นผู้เสียหาย โดนคนร้ายหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล โดยคนร้ายได้สร้างบัญชีไลน์ใช้ชื่อ "Oil" และใช้รูปประจำตัวเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แอดไลน์จากหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเพิ่มเป็นเพื่อน จากนั้นได้แช็ตหาผู้เสียหายเพื่อพูดคุยตีสนิท เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ คนร้ายเริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนหุ้น และการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (USDT) ผ่านแอปพลิเคชัน Trust จาก App Store ซึ่งอ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินเพื่อเก็บเหรียญดิจิทัลในการลงทุน

เมื่อผู้เสียหายเริ่มคล้อยตามและหลงเชื่อ คนร้ายจึงได้ส่งลิงก์เว็บไซต์ปลอมชื่อ ercadia.bio ซึ่งอ้างว่าใช้สำหรับการโอนเงินซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลสกุล USDT เพื่อลงทุน และใช้แจ้งผลกำไรจากการลงทุนให้ผู้เสียหายทราบ จากนั้นผู้เสียหายจึงโอนเงินลงทุนเรื่อยมา กระทั่งผู้เสียหายต้องการถอนเงินกำไรที่ได้จากการลงทุนออกมา ปรากฎว่าไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ว่าตนเองถูกหลอก รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไป นำกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด โดย บก.สอท.3 ได้มอบหมายให้  ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกปฏิบัติการ

จากนั้น พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนได้สืบสวนจนสามารถจับกุม น.ส.อาทิมา อายุ 32 ปี ได้เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี และขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มได้อีก 1 คน คือ นายอรรถพล อายุ 38 ปี โดยควบคุมตัวได้ในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป