ดรามา! หมอเหรียญทอง ตบสั่งสอนเด็ก

View icon 40
วันที่ 15 พ.ค. 2567 | 17.03 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่เด็กชายอายุ 14 ปี ยืนยันดำเนินคดี "หมอเหรียญทอง" ให้ถึงที่สุด ยอมรับลูกชายแอบสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลจริง แต่ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกาย และจับแก้ผ้า

ดรามา! "หมอเหรียญทอง" ตบสั่งสอนเด็ก
เป็นประเด็นดรามา ที่คนในสังคมถกเถียงกันอย่างดุเดือด เมื่ออีกฝ่ายเป็นเยาวชน อายุเพียง 14 ปี แอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กรุงเทพฯ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย และผู้ใช้บริการท่านอื่น

แต่อีกมุมหนึ่ง เมื่อ นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สั่งสอนเด็กชายคนนี้ ทั้งตบใบหน้า เตะ หรือแทงเข่า พร้อมจับกับแก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากโรงพยาบาล ก็ทำให้คนในสังคมตั้งคำถามว่า ลงโทษแบบนี้เกินกว่าเหตุหรือไม่ ?

ลั่น ดำเนินคดี "หมอเหรียญทอง" ถึงที่สุด
ล่าสุดเช้าวันนี้ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พา นางสาวกัลยา (ขอสงวนนามสกุล) แม่ของเด็กชายอายุ 14 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง โดย ทนายรัชพล กล่าวว่า จะขอให้ตรวจสอบความผิดทั้งหมด 5 ข้อหา ประกอบด้วย ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายจิตใจ ยักยอกทรัพย์ ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือทำให้เกรงกลัวอันตราย กักขังหน่วงเหนี่ยว และกระทำอานาจาร

แต่ต้องรอตรวจสอบว่า พนักงานสอบสวนจะพิจารณาให้เข้าข่ายความผิดทั้ง 5 ข้อหาหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อคู่กรณี เพราะอีกฝ่ายไม่อยากเจรจา ส่วนการตรวจร่างกาย แม่ของเด็กได้พาไปตรวจแล้ว ต้องรอผลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ร้ายแรงเเค่ไหน

นางสาวกัลยา กล่าวว่า ขอโทษและยอมรับว่าลูกตนเองไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำจริง แต่สิ่งที่คู่กรณีทำ ถือว่าเกินกว่าเหตุ แม้กระทั่งตนเอง ก็ยังไม่เคยทำรุนแรงกับลูกแบบนี้ แม้อีกฝ่ายจะมาขอโทษ และคืนทรัพย์สิน หรือยกเลิกการจ่ายค่าปรับ ก็ยังคงดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เด็กชาย 14 ปี ช้ำใจถูกทำร้าย-จับแก้ผ้า
ขณะที่ เด็กชายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ยอบรับว่า แอบสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลจริง ส่วนที่คู่กรณีโพสต์ว่า ยกพวกขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่โรงพยาบาลนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง แต่หลังจากถูกทำร้าย ทั้งตบหน้า เตะ และตีเข่า ก่อนถูกจับแก้ผ้า จนตนเองต้องวิ่งขอความช่วยเหลือคนแถวนั้น ให้แม่มารับที่โรงพยาบาล ซึ่งภาพหลักฐานวงจรปิด สามารถจับภาพตอนที่วิ่งขอความช่วยเหลือด้วยสภาพล่อนจ้อนไว้ได้

แต่หลังจากแม่มารับแล้ว ได้กลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยขออาศัยไปกับรถพลเมืองดี เพื่อไปดูแฟนที่โรงพยาบาล เบื้องต้นอยากฝากถึงคู่กรณีว่า "มีสิทธิ์อะไรที่มากระทำเช่นนี้ ตนไม่เคยโดนใครทำร้ายเเบบนี้มาก่อน"

ผงะ! เจอยาไอซ์ซุกกระเป๋าเด็ก 14 ปี แม่ปัดไม่ใช่ของลูก
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล พาแม่ของเด็กชายอายุ 14 ปี ไปติดตามทวงทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของที่ถูกทางโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยึดไปกลับคืน แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่กลับเจอถุงบรรจุยาไอซ์ และอุปกรณ์การเสพ อยู่ในกระเป๋าของเด็กชาย

เบื้องต้น แม่เด็กชายปฏิเสธว่า ยาเสพติดดังกล่าวไม่ใช่ของลูกชาย พร้อมขอให้โรงพยาบาลเปิดภาพวงจรปิด เพื่อดูว่ามีการยัดยาเสพติดใส่ในกระเป๋าของลูกชายหรือไม่ ขณะที่ทางโรงพยาบาลประสานตำรวจมานำของกลางไปตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว