สำเนาประวัติรักษา บุ้ง ทะลุวัง ถึงทนายแล้ว ราชทัณฑ์ แจงยิบอาการป่วย เผย กินข้าวมื้อแรก 13 เม.ย.

สำเนาประวัติรักษา บุ้ง ทะลุวัง ถึงทนายแล้ว ราชทัณฑ์ แจงยิบอาการป่วย เผย กินข้าวมื้อแรก 13 เม.ย.

View icon 44
วันที่ 20 พ.ค. 2567 | 15.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ราชทัณฑ์ มอบสำเนาประวัติรักษา บุ้ง ทะลุวัง ถึงมือทนาย แจงยิบอาการป่วย เผย กินข้าวมื้อแรก 13 เม.ย. เป็นที่เรียบร้อย

วันนี้ (20 พ.ค.67) เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพี่สาวของ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ได้เดินทางเข้ารับเอกสารสำเนาประวัติการรักษา ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นในเวลา 10.00 น. ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เห็นสถานที่จริงระหว่างที่ น.ส.เนติพร เข้ารับการรักษาโดยแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นเรือนจำที่ทำหน้าที่พิเศษคือ คุมขังและให้การรักษาผู้ต้องขังเจ็บป่วยที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำต่าง ๆ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ก็จะส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเดิม โดยในกรณีของ น.ส.เนติพร ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.67 แพทย์มีความเห็นว่ามีภาวะเลือดเป็นกรดจากการอดอาหาร และเกลือแร่โพแทสเซียมในเลือดต่ำ ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้รับหนังสือจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 แจ้งให้รับตัว น.ส.เนติพร กลับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอาการโดยรวมของ น.ส.เนติพร ดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีอาการใจสั่น ไม่มีเวียนศีรษะหน้ามืด ไม่มีอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สัญญาณชีพและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงได้รับตัว น.ส.เนติพร กลับมาในวันที่ 4 เม.ย.67 โดยหลังกลับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ น.ส.เนติพร จิบน้ำได้ แต่ยังคงปฏิเสธอาหาร และเริ่มรับประทานอาหารมื้อแรก คือมื้อเย็นของวันที่ 13 เม.ย.67 น.ส.เนติพร ยังปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่โพแทสเซียมและวิตามิน จึงยังมีภาวะเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำ ทีมสหสาขาวิชาชีพของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้คำแนะนำ ดูแลใกล้ชิดและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งระดับเกลือแร่เพิ่มขึ้น น.ส.เนติพร สามารถทำกิจวัตรประจำวันและเดินเข้าห้องน้ำได้เอง แพทย์มีความเห็นว่าให้จำหน่าย เป็นผู้ป่วยพักฟื้นแต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการเป็นระยะ และจัดให้นอนในห้องเดียวกับ น.ส.ทานตะวัน ในห้องผู้ป่วยพักฟื้น ชั้น 2 ของหอผู้ป่วยหญิง จนกระทั่งเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน จึงนำตัวลงมายังห้อง ICU ชั้น 1 โดยทางทีมแพทย์ได้ทำการกู้ชีพ พร้อมนวดหัวใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิติในเวลาต่อมา

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังคงมีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม จึงได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพร รับการดูแลรักษาก่อนส่งตัวออกโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ พร้อมขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง