กลับไม่ถึงบ้าน ! รถพุ่งตกคลองติดภายในเสียชีวิต หลังกลับจากงานศพ

กลับไม่ถึงบ้าน ! รถพุ่งตกคลองติดภายในเสียชีวิต หลังกลับจากงานศพ

View icon 156
วันที่ 21 พ.ค. 2567 | 07.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตาวัย 73 ปี ขับรถกระบะไปร่วมงานศพ ขากลับอีกไม่ถึง 1 กม. จะถึงบ้าน แต่กลับไม่ถึง รถเกิดพุ่งตกลงไปในคลองติดภายในเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดผู้ตายหลับในหรือมีอาการวูบขณะขับกลับ

วันนี้ (21 พ.ค. 67) พ.ต.ท.ประมาณ ปลาทอง สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกน้ำและคาดว่ามีคนติดอยู่ภายในรถ บริเวณคลองสามเรือน หมู่ 1 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมือง ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมือง แพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชานุกูลราชบุรี

ณ ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูในคลองชลประทาน ซึ่งมีรถกระบะจมอยู่ในน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถมาช่วยดึงรถคันดังกล่าวที่จมน้ำขึ้นมา โดยพบว่ารถกระบะสภาพด้านหน้ามีร่องรอยถูกชนจนหน้ารถพังยับเยิน และภายในรถพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญชู  อายุ 73 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน 

จากการสอบถาม นายเอกรัฐ  อายุ 22 ปี ชาวบ้านที่พบรถจมอยู่ เล่าว่า ตนนำขยะมาเผาบริเวณริมคลอง แต่เมื่อมองลงไปในคลองเห็นหลังคารถ จึงได้บอกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันดู แล้วจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ซึ่งตอนแรกไม่มีใครลงไปดูในคลอง จึงไม่ทราบว่ามีคนติดอยู่ในรถ

ขณะที่ชาวบ้านอีกคน เล่าว่า ตนรู้จับกับผู้ตายเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ตายนั้นเป็นหัวหน้าคุมคนงานก่อสร้าง ซึ่งจะต้องวิ่งรับ-ส่งคนงานไปทำงานก่อสร้างบ้านใน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แต่เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ค. 67) ที่ผ่านมา หลังจากส่งคนงานเสร็จแล้วผู้ตายก็บอกว่าจะไปงานศพ หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จนมาทราบข่าวว่าขับรถตกน้ำและเสียชีวิต
 
เบื้องต้น ทางญาติของผู้ตายได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายได้ไปร่วมงานศพของเพื่อนบ้าน และทราบว่าผู้ตายนั้นได้มีการนั่งพูดคุยกับทางญาติของผู้ตายจนดึก ก่อนจะขับรถออกมาจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย จนมีคนไปพบรถจมอยู่ในคลอง ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากบ้านเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงที่ขับรถกลับนั้นผู้ตายอาจจะเกิดอาการหลับในหรือเกิดวูบ จนทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลองและเสียชีวิตดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง