ศาลสั่งประหารชีวิต อดีตตำรวจ ยิงเสี่ยโรงงานดับบนทางด่วน ปมขัดแย้งหนี้สินธุรกิจ

ศาลสั่งประหารชีวิต อดีตตำรวจ ยิงเสี่ยโรงงานดับบนทางด่วน ปมขัดแย้งหนี้สินธุรกิจ

View icon 105
วันที่ 6 มิ.ย. 2567 | 16.26 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลสั่งประหารชีวิต อดีตตำรวจ สน.หัวหมาก รัวกระสุนใส่เสี่ยโรงงานดับบนทางด่วน ปมขัดแย้งหนี้สินธุรกิจ เจ้าตัวสารภาพ ศาลลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตาย 13 ล้านเศษ

วันนี้ (6 มิ.ย.67) ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.949/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.ณรงค์วัส หรือ นัท อายุ 26 ปี อดีตรอง สว.สอบสวน สน.หัวหมาก เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ คดีนี้มีญาติผู้ตายซึ่งเป็นผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีรวม 3 คน

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 66 เวลากลางคืน จำเลยใช้อาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยิงนายกฤษฎิ์ เสี่ยนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน 7 นัดที่บริเวณศีรษะ และอวัยวะส่วนอื่นจนถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณทางด่วนฉลองรัช (ลาดพร้าว ขาออก) แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เลขที่ จ.4841/2566 ติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ  โดยโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,91,288,289,371,376

ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาในชั้นพิจารณาของศาล จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่ามีความขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องหนี้สิน จากการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งจำเลยไม่ได้ประกัน ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ศาลจึงให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4),371, 376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้ประหารชีวิต ส่วนฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 ปี

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 (2) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง ฯ คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทกก์ร่วมที่ 1 จำนวน 2,750,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 4,600,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 6,040,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น13,390,000บาท ริบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนของกลาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง