ผัววัย 49 ปี ติดเหล้าหนัก เมียไม่ให้เงินไปซื้อเหล้า ใช้สายไฟมัดมือเมือ ก่อนใช้เตารีดและขวดเหล้าฟาดหน้าเมียจนเสียชีวิตคาบ้าน ด้านลูกสาวของผู้ตาย เผย เคยขอให้แม่เลิกกับสามีใหม่ เพราะติดเหล้าไม่ทำงาน แต่แม่ก็ไม่ยอมเลิก
วันนี้ (27 มิ.ย. 67) ร.ต.อ.หญิงพัชราวัลย์ ฤทธิ์ชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชะอำ ได้แจ้งเหตุสามีขังภรรยาไว้ภายในบ้านพัก แห่งหนึ่งในซอยเจ๊แดงบางควาย ถ.คลองเทียน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.ชะอำ แพทย์เวรโรงพยาบาลชะอำ พิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี และอาสากู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี
ณ บ้านหลังดังกล่าวพบผู้หญิงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.ขวัญทูล ปัญญาปิยวิทย์ รอง ผกก. ทราบ ก่อนเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ชะอำ พฐ.เพชรบุรี กู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี เข้าร่วมตรวจสอบ
ณ บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณประตูรั้วหน้าบ้านพบกุญแจล็อกจากภายในบ้าน จึงเรียก นายประสิทธิโชค อายุ 49 ปี ที่อยู่ในบ้านในสภาพแก้ผ้ามีอาการเมาพูดคุยไม่รู้เรื่องให้มาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านแต่นายโชคไม่ยอมเปิดให้ จึงประสานเจ้าของบ้านที่ให้เช่ามาเปิดบ้านให้
เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า นางกิตตินันท์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายประสิทธิโชค ถูกนายประสิทธิโชคทำร้ายจนเสียชีวิตอยู่ภายในครัวหลังบ้าน ในสภาพนอนหงาย หัวแตก มีสายไฟเตารีดมัดมือทั้ง 2 ข้างไว้ เลือดท่วมใบหน้าและบริเวณศีรษะ มีบาดแผลที่ใบหน้า จากการถูกตีด้วยเตารีดและขวดเหล้า โดยมีขวดเหล้า 5-6 ขวดแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นครัว
ทาง น.ส.สิรินยา ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า แม่กับสามีใหม่ (ผู้ต้องหา) คบกันมาประมาณ 4-5 ปี ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ตนกับแม่ได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เรื่องขอให้แม่เลิกคบกับสามีคนนี้ เพราะติดสุราไม่ยอมทำงาน แต่แม่ก็ไม่เลิก ตนกับแม่จึงไม่ได้ติดต่อและคุยกันอีกเลย จนมาทราบเรื่องวันนี้ว่าแม่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต อยากให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
จากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายประสิทธิโชค รับสารภาพว่า ได้ทำร้ายภรรยาจริงโดยใช้เตารีดและขวดตีไปที่ศีรษะหลายครั้ง เนื่องจากโมโหที่ผู้ตายไม่ยอมให้เงินไปซื้อเหล้ากิน โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
