พ่อผูกคอตาย หลังลูกชายวัย 14 ถูกพ่อเพื่อนทำร้าย แต่คดีไม่คืบ ตำรวจปรับ 1 พันเงินไม่มี

พ่อผูกคอตาย หลังลูกชายวัย 14 ถูกพ่อเพื่อนทำร้าย แต่คดีไม่คืบ ตำรวจปรับ 1 พันเงินไม่มี

View icon 664
วันที่ 1 ก.ค. 2567 | 11.08 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พ่อผูกคอตาย หลังลูกชายวัย 14 ถูกพ่อเพื่อนทำร้าย แต่คดีไม่คืบ อีกทั้งหลังแจ้งความร้อยเวรปรับคนละ 1,000 บาท แต่พ่อไม่มีให้ลูกชาย จึงตัดพ้อว่า " เราคนจน เงินไม่มี มีทางเดียวที่จะมีเงิน คือเงิน ฌาปนกิจของพ่อ " ก่อนที่รุ่งเช้าลูกชายมาพบ พ่อจบชีวิตตัวเองแล้ว

จากกรณีที่เพจดัง โพสต์ข้อความเศร้าสลด RIP คุณพ่อน้อง สู่สุคติ น่าเศร้ามาก เด็กนักเรียนชายถูกผู้ปกครองเพื่อนที่โรงเรียนต่อยหน้าและข่มขู่ แจ้งความตำรวจก็ไม่ทำอะไร จนเด็กไปเล่าให้พ่อฟัง พูดคุยเพื่อหาทางออกกันที่บ้าน สุดท้าย! พ่อตัดพ้อว่าตัวเองจน เจ็บใจที่ดูแลลูกไม่ได้ จนคิดสั้นผูกคอตาย เมื่อเช้านี้! เหตุเกิดที่ ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ครอบครัวนี้มีกัน 3 คน พ่อ พี่ชาย และตัวน้อง ส่วนแม่ เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว พ่อน้องประกอบอาชีพทั่วไป พี่ชายทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุ ตามประสาเด็กผู้ชาย ช่วงเย็นน้องก็ไปเล่นบอลตามปกติ แล้วเกิดมีปากเสียงกับเพื่อนที่เล่นด้วยกัน แต่พ่อของเพื่อนน้อง มาเห็นว่ากำลังทะเลาะจึงเข้ามาหาน้อง พ่อเด็กคนนั้นก็ต่อยเข้าเบ้าตาน้อง จนเขียวปูด

หลังจากนั้น น้องมาเล่าให้พ่อฟัง รุ่งเช้าน้องก็เข้าไปแจ้งความที่ สภ. ตำรวจบอกว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท อยากจะให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ให้จ่ายคนละ 1,000 บาท หลังจากพี่ชาบทราบข่าว จึงกลับมาจากต่างจังหวัดทั้ง 3 คน พ่อ พี่ชาย และตัวน้อง ก็นั่งคุยปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร เพราะน้องก็ไม่มีเงิน 1,000 บาท จะไปจ่ายเค้า ที่สถานีตำรวจ ช่วงที่คุยกัน พ่อได้พูดว่า

" เราคนจน จะไปสู้อะไรกับเค้าได้ เงินไม่มี ถ้าเรามีเงินก็สู้เค้าได้ มีทางเดียวที่จะมีเงิน คือเงิน ฌาปนกิจของพ่อ "

พี่ชายได้ฟังจึงเอ่ยปากห้ามพ่อ บอกว่ามีอีกหลายวิธี ให้พ่อเลิกคิดอย่าทำแบบนั้น หลังจากนั้นต่างคนก็ได้แยกย้ายกันไปนอน ช่วงตี 4 หัวรุ่ง น้องตื่นมา เพื่อจะไปหาปลามาขายที่ตลาด แต่ต้องตกใจ เพราะเห็นพ่อผูกคอตัวเองดับ ที่ขื่อกลางบ้าน น้องทำอะไรไม่ถูก ยื่นนิ่งสักพัก จึงไปเรียกญาติให้มาช่วยส่งโรงพยาบาล แต่ก็สายไปแล้ว วันจัดงานศพ แม้แต่โลงก็ยังไม่มี ญาติก็ต่างช่วยกันจัดงานให้พ่อน้อง โลงทางวัดก็จัดการให้ ส่วนคนที่ทำน้อง ตอนนี้หลังจากที่เป็นข่าว มีคนไปหาที่บ้านก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน

ล่าสุดวันที่ 1 ก.ค.ที่วัดบางบอน ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายสาคร อายุ 63 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งนายเสกสรร อายุ 29 ปี ลูกชายคนโต เล่าว่าบ้านอยู่ หมู่ 7 ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หลังจากพ่อ มาทราบว่าลูกชายคนเล็ก อายุ 14 ปี  เรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกผู้ปกครองของเพื่อนในโรงเรียน ทำร้ายเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา พ่อเลยเกิดอาการเครียด ผูกคอตาย เขียนจดหมายสั่งเสียเอาไว้

นายเสกสรร ลูกชายผู้เสียชีวิตเล่าต่อว่า พ่อเขาเกิดอาการเครียดเรื่องที่ว่าน้องไปโดนเขาชกต่อยมาแล้วคดีไม่คืบหน้า พ่อเครียดมาก ถามตนเองทุกวัน ว่ามีเงินไปช่วยน้องขึ้นศาลไหม เขาก็ไม่มี ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองทำงานหาเงินให้พ่อทุกวัน จะให้พ่อเอาเงินไปขึ้นศาล ก็ไม่คิดว่าพ่อจะมาทำแบบนี้  เรื่องชกต่อยเกิดขึ้นที่โรงเรียน แต่คดี 1 เดือน 1 วัน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตนเองเป็นคนไปแจ้งความให้ แต่ตำรวจไม่ให้ตนเองเป็นผู้ปกครอง ตำรวจจะให้พ่อเป็นคนแจ้ง พ่อไม่สบาย ป่วย แต่ตำรวจยืนยัน จะให้พ่อเป็นคนแจ้งความ

เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของเด็ก 2 คน แล้วพ่อของเด็กฝั่งโน้นเมาแล้วมาต่อยน้องของตนเอง เหมือนมาเคลียร์ให้ลูก ซึ่งเด็กคนนั้นอยู่คนละโรงเรียนกับน้องตัวเอง วันนี้จริงๆตำรวจเรียกขึ้นศาล เพื่อไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ส่วนเงิน 1,000 บาท พ่อบอกว่าร้อยเวรปรับคนละ 1,000 บาท แต่พ่อไม่มี จึงบอกตำรวจว่ารอขึ้นศาลได้ไหม แล้วค่อยให้

ขณะที่ พ.ต.ท.อภิชาต ปานแพร รองผู้กำกับ สอบสวน สภ.สองพี่น้อง กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวได้ดำเนินการตามขั้นตอน ของกฎหมาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งวันที่เรียกมาไกล่เกลี่ยนั้น พนักงานสอบสวนได้ถามผู้เสียหายว่ายินยอมให้ปรับเงิน 1,000 บาท กับผู้ต้องหาหรือไม่ ซึ่งผู้เสียหายไม่ยินยอม ขอให้ดำเนินตามขั้นตอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว อีกทั้งทางผู้เสียหายได้ร้องขอไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันนี้

ขณะที่พนักงานสอบสวนยืนยันได้อธิบายให้ผู้เสียหายเข้าใจทุกขั้นตอนแล้ว ซึ่งการเสียค่าปรับดังกล่าวนั้น เป็นการปรับทางผู้ก่อเหตุ ฝังเดียวเท่านั้น จึงต้องถามผู้เสียหายว่ายินยอมให้ปรับหรือไม่ หากผู้เสียหายไม่ยินยอม พนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สองพี่น้อง ได้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาไกลเกลี่ย ผลปรากฎว่าทางผู้เสียหาย ไม่ยินยอมให้ พนักงานสอบสวน ปรับผู้ก่อเหตุ 1,000 บาท ทางพนักงานสอบสวน จึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป แจ้งข้อหา ใช้กำลังทำร้าย โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กำหนดฌาปนกิจ นายสาคร ผู้เสียชีวิต วันที่ 3 ก.ค. เมรุ ณ วัดบางบอน ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง