กัญชากลับเป็นยาเสพติด ลูกผู้ป่วยมะเร็งขู่ฟ้องศาลปกครอง

กัญชากลับเป็นยาเสพติด ลูกผู้ป่วยมะเร็งขู่ฟ้องศาลปกครอง

View icon 90
วันที่ 10 ก.ค. 2567 | 16.57 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กัญชากลับเป็นยาเสพติด ลูกผู้ป่วยมะเร็งขู่ฟ้องศาลปกครอง เชื่อกระทบผู้ป่วยเป็นล้านคน เผยพ่อรอดตาย อาการดีขึ้นได้เพราะกัญชา ทั้งที่หมอบอกอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือน

ความเคลื่อนไหว หลังคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีมติให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด วันนี้ (10 ก.ค.67) นายสุวิทย์ เปรื่องธรรมกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานศาลปกครองพิษณุโลก บุตรชาย ร.ต.ต.พวง เปรื่องธรรมกุล  อายุ 90 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย ที่ใช้กัญชารักษา จนมีอาการดีขึ้น ให้ความเห็นว่า การเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ป่วยจำนวนมาก นี่ขนาดยังไม่เป็นยาเสพติด โรงพยาบาลก็ไม่อยากจะจ่ายยากัญชากันแล้ว เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายสนับสนุน ยากัญชาตามโรงพยาบาลจึงขาดแคลน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า พ่อของคนเคยต้องทุกข์ และทรมาณ จากอาการป่วย ด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย แพร่กระจายไปที่ปอดและกระดูก เหนื่อย หายใจลำบากมาก แพทย์ฉีดยามอร์ฟีนให้ทุก 12 ชั่วโมง บอกว่ารักษาไม่ได้ ให้กลับบ้าน จ่ายยาพ่นขยายหลอดลม ยามอร์ฟีนแบบกินและแนะนำให้ใส่ออกซิเจนตลอดเวลา พร้อมแจ้งญาติว่า จะอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือน ต่อมามีคนแนะนำให้ไปขอยากัญชาจากคลินิกกัญชาของโรงพยาบาลมาให้พ่อใช้ แต่โรงพยาบาลบอกว่ายาหมด โชคดีที่ในที่ตนได้ยากัญชาสกัดจากหลวงพ่อที่สนิทกันมาให้พ่อใช้ หลังจากใช้ไปเพียง 3  วัน

นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังใช้ยากัญชาอาการของพ่อค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ เหนื่อยน้อยลง ไม่หอบ ไม่ต้องพ่นยา ไม่ต้องใส่สายออกซิเจน จากเดิมที่นอนติดเตียง ต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา ผ่านไป 2 สัปดาห์ พ้อก็ลุกจากเตียงได้ นั่งตักอาหารกินเองได้ ลุกเดินได้ โดยมีคนคอยช่วยพยุง ออกไปกินอาหารนอกบ้านได้เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พ่ออาการดีขึ้นมาก สามารถอวยพรให้ลูกหลานที่มารดน้ำขอพรได้

“ผมเองก็ใช้ยากัญชาอยู่เพราะเป็นโรคตับ ปัจจุบันแข็งแรงดี ถ้ารัฐบาลเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจริง คงจะเดือดร้อนกันอีกนับล้านคน หลายคนน่าจะเสียชีวิตไปอย่างที่ไม่สมควร ถือเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติแบบหนึ่ง หากมีการออกประกาศให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ขอเชิญชวนผู้ป่วยที่ใช้กัญชารักษาโรค และผู้ที่จะได้รับผลกระทบ นำเรื่องไปฟ้องเพิกถอนกฎหรือประกาศ ต่อศาลปกครอง เพื่อปกป้องคุ้มครองตัวเองและเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมด้านสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน ที่รักสุขภาพ และต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี”